CRIME

ทนายความ ‘บอสพอล‘ พ้อ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ยัน ไม่ได้ข่มขู่ แค่ใช้สิทธิ์ทางกฎหมายกับคนฟ้องเท็จ

วันนี้ (23 ธ.ค. 67) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล และผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ป ให้สัมภาษณ์ภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่งสำนวนคดีของกลุ่ม 18 ผู้ต้องหา และ 1 นิติบุคคล บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัดให้อัยการคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องในคดีดังกล่าว

นายวิฑูรย์ ยอมรับว่า คดีนี้ตนเองยังไม่พร้อม เนื่องจากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมในการได้ข้อมูลทางคดีมาพิจารณาในการต่อสู้คดี จึงได้รวมตัวกับทนายความของผู้ต้องหาทุกคน ร่างคำร้องขอความเป็นธรรมให้กับสำนักงานอัยการสูงสุด ใน 4 ประเด็นคือ เรื่องการสอบปากคำพยานของฝั่งดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งขณะนี้ ดีเอสไอได้สอบปากคำพยานในฝั่งของตนเองไปเพียง 30 ปาก จากจำนวนมากกว่า 2,400 ปาก

นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า อีกส่วนหนึ่งคือประเด็นการสอบปากคำโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งทางดีเอสไอ ก็มีการสอบให้ตามคำขอ แต่ประเด็นสำคัญคือเรื่องรายงานพฤติการณ์ของผู้เสียหาย 9,000 กว่าราย ให้สรุปพฤติการณ์มาให้โดยละเอียด รวมถึงรายชื่อของพยานและผู้เสียหายในคดีดังกล่าว ว่ามีบุคคลใดบ้าง และมีมูลค่าความเสียหาย หรือรูปแบบพฤติการณ์ของลูกความตนเองอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้ทำคำให้การได้ถูกต้อง แต่ปรากฏว่าไม่ได้ตามที่ขอไป

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าการที่ร้องขอความเป็นธรรมกับสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อเป็นการยื้อคดีเรื่องนี้ นายวิฑูรย์ มองว่า ตนเองก็ไม่ได้อยากทำ และหากดีเอสไอให้ข้อมูลดังกล่าว ก็คงไม่ร้องขอความเป็นธรรมแบบนี้ และเชื่อว่าสำนักงานอัยการสูงสุดจะให้ความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว แต่หากเรื่องไปถึงชั้นศาล ตนเองก็คงต้องให้ลูกความไม่รับข้อเท็จจริงของพยาน และผู้เสียหาย ซึ่งอาจทำให้ศาลต้องสอบพยานทุกคน มองว่าจะยิ่งทำให้เสียเวลา

สำหรับประเด็นที่มีแชทข้อความไปถึงผู้เสียหายมีลักษณะคล้ายการข่มขู่ ก็ขอให้ดีเอสไอสอบสวนต่อไป และตนก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย หากเป็นการแจ้งความเท็จ ตนก็สามารถใช้สิทธิ์ทางกฎหมายในการดำเนินคดีกลับได้

นายวิฑูรย์ ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เพียงแค่จะตรวจสอบผู้ที่แจ้งความเท็จมาดู เพื่อที่จะพิจารณาดำเนินคดี แต่หากไม่ได้แจ้งความเท็จ จะไปเดือดร้อนอะไร และตนเองไปข่มขู่ตรงไหน และขอให้ทำคดีอย่างเป็นธรรม ตรงไปตรงมา อย่าเอาสะใจ มันไม่ดี”

นายวิฑูรย์ ยังเชื่อว่า ทางอัยการสูงสุดจะให้ความเป็นธรรมตามกฏหมาย จะไม่เพิกเฉยในเรื่องพวกนี้ เพราะจะกลายเป็นการสั่งคดีมิชอบ ซึ่งหากไม่เป็นตามที่ตนเองวางไว้ ก็จะไปสู้ในชั้นศาล ส่วนจะมีการยื่นประกันตัวอีกหรือไม่ นายวิฑูรย์ ระบุว่า เบื้องต้นมีคนยื่นประกันตัวไปแล้ว 4 คน โดยในครั้งนี้ก็อาจจะมีการยื่นประกันตัวในวันที่อัยการสั่งฟ้องก็เป็นได้ ซึ่งเบื้องต้น ยังไม่ได้คุยเรื่องหลักทรัพย์การประกันตัว และจะไปถามกับญาติของผู้ต้องหาก่อน

ทนายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ท้ายที่สุด หากอัยการสูงสุดสั่งฟ้อง เราก็ต้องพร้อมสู้คดี แต่ในชั้นสอบสวนตอนนี้เรายังมีหลายประเด็นที่ต้องการที่ต้องการให้สอบสวนต่อ และยังสอบสวนไม่ครบ และยังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่ได้รับสิทธิ์ตามกฏหมาย ส่วนจะพูดคุยกับทนายของผู้ต้องหารายอื่น เพื่อยื่นประกันตัวผู้ต้องหาพร้อมกันหรือไม่ นายวิฑูรย์ ระบุว่า ก็มีการคุยกันอยู่เป็นประจำ แต่ไม่สามารถที่จะเปิดเผยแนวทางได้

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat