CRIME

ตร. ส่งสำนวนคดีอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับส่วยให้ ป.ป.ช.แล้ว เจ้าตัวย่องเงียบ เตรียมยื่นประกัน

วันนี้ (23 ม.ค.66) เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นำสำนวนคดีของ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการในสังกัด มาส่งที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) โดยมีเอกสารประกอบ 653 แผ่น ของกลาง 3 รายการ ทรัพย์สินและสิ่งที่ตรวจยึด 21 รายการ แฟลชไดรฟ์ 1 รายการ แผ่นซีดี 1 รายการ

นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า วันนี้เป็นการส่งสำนวนคดีนายรัชฎาซึ่งมาพร้อมของกลาง และยังไม่มีการให้ปากคำใด ๆ ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องไว้ดำเนินการต่อตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 แล้ว โดยนายรัชฎา เดินทางมาด้วย เพื่อยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นของ ป.ป.ช.ด้วยหลักทรัพย์ 400,000 บาท โดยหลังจากนี้ ป.ป.ช.จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ทั้งนี้ ป.ป.ช.จะเรียกบุคคล ที่มีชื่อบนซองสีน้ำตาลในห้องทำงานของนายรัชฎา มาสิบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าหลักฐานของ ปปป. ที่ส่งมาครบถ้วนเพียงใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีเรียกรับสินบนแตแต่งตั้งโยกย้ายหน่วยงานในสังกัดของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) เป็นเวลาร่วม 2 ชั่วโมง

นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นให้ปากคำ และยื่นเอกสารเพิ่มเติม ขอให้ ป.ป.ช.เร่งรัดทำคดี ส่งฟ้องต่ออัยการภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน เนื่องจากยังมีบริวาร เป็นบุคคลที่ใกล้ตัว โทรข่มขู่พยานเกือบทุกคนในคดี ใช้คำพูดในลักษณะคิดให้ดี ยังคงมีอำนาจอยู่, หวังจะได้กลับมารับตำแหน่ง โดยไม่ได้เสนอผลประโยชน์ใด ๆ ซึ่งพยานทุกคนไม่สบายใจ และยืนยันที่จะเดินหน้าต่อ บางส่วนไม่ให้ปากคำโดยตรง แต่ทำเป็นเอกสารแทน

นายชัยวัตน์ กล่าวต่อว่า ยังมีเส้นสายของนายรัชฎา เรียกรับผลประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ห้ามพยานในหน่วยงานภาคสนามที่รวบรวมเงินไม่ให้ไปให้การ แม้ผู้ถูกกล่าวหายังบริสุทธิ์อยู่ ได้รับการประกันตัว ถูกโยกย้ายไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังอยู่ในสังกัดเดียวกัน พยานจึงยังกังวล และไม่มั่นใจเรื่องความเป็นกลางในการสอบสวน

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า ซองเงินที่พบในห้องทำงานของนายรัชฎา เป็นเงินในโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า นายชัยวัฒน์ ระบุว่า ป.ป.ช.สืบสวนมาเป็นร้อยเป็นพันคดี ต้องระวังตัว ให้การเท็จ มีโทษทางอาญา และโทษไม่เบา การจัดทำโครงการหนึ่ง จะต้องมีการเขียนโครงการ มีรูปแบบการโอน ถ้าตนเองเป็นอธิบดีฯ หน่วยงานต้องเอาเงินมาให้อธิบดีหรือ ถูกต้องหรือไม่ ต้องมีคนรวมเงินเข้าบัญชีอยู่แล้ว

สำหรับคดีทุจริตของนายรัชฎา พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปทั้งหมด 36 ปาก แบ่งเป็นกลุ่มพรรคพวกของนานชัยวัฒน์ที่รวบรวมเงิน 98,000 บาท เพื่อนำไปให้นายรัชฎา 17 คน กลุ่มพยานที่ถูกแต่งตั้งโยกย้าย 5คน และกลุ่มที่มีชื่อปรากฎบนซองเงินที่พบในห้องทำงานของนายรัชฎาอีก 14 คน

เรื่อง: นัสญามีย์ ดำเต๊ะ และ ณัฐพร สร้อยจำปา

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat