DSI คุมตัว 3 ผู้ถือหุ้นคนไทย บริษัท ไชน่าเรลเวย์ฯ ฝากขังต่อศาล
DSI คุมตัว 3 ผู้ถือหุ้นคนไทย บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ฝากขังต่อศาล ด้านผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมส่งหนังสือชี้แจงเพิ่มเติมภายหลัง ขณะที่ ‘โสภณ’ หนึ่งในผู้ต้องหา รับรู้จัก 2 ชาวจีนในบริษัทจริง อ้างถูกอีก 2 คน ชักชวนให้ทำงาน
วันนี้ (22 เม.ย. 68) เวลา 10:22 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เจ้าหน้าที่นำตัว นายประจวบ ศิริเขตร นายมานัส ศรีอนันท์ และนายโสภณ มีชัย 3 คนไทยผู้ถือหุ้นบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในคดีความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (นอมินี)
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมาขึ้นรถตู้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงการถือหุ้นแทนคนจีน รวมถึงสาเหตุที่ไม่พบคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จนนำไปสู่การออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ไม่ตอบคำถามสื่อ ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวขึ้นรถออกไปฝากขังที่ศาลอาญา
ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 รายแล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่ได้เป็นนอมินีถือหุ้น โดยนายประจวบ และนายมานัส ให้การไม่เป็นประโยชน์ และร้องขอชี้แจงเป็นเอกสารเพิ่มเติม ส่วนนายโสภณนั้นให้การบางส่วน โดยอ้างว่า รู้จักกับกรรมการชาวจีนทั้ง 2 ราย คือ นาย ชวนหลิง จาง กรรมการบริษัท และนายบินลิง วู เนื่องจากนายประจวบ และนายมานัสทำงานกับบริษัทที่มีชาวจีนเกี่ยวข้องอยู่ จากนั้นตัวเองก็ถูกนายประจวบ และนายมานัส ชักชวนให้มาทำงานด้วย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นอกจากนี้ นายโสภณจะขอชี้แจงเป็นหนังสือมาเพิ่มเติมภายหลัง
ส่วนการชี้แจงเป็นหนังสือเพิ่มเติมนั้น พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ไม่ได้มีผลต่อรูปคดี ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ทุกอย่างที่ให้การจะถูกนำไปพิสูจน์ทั้งหมด โดยข้อมูลที่จะชี้แจงเพิ่มเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงตัวกรรมการผู้ถือหุ้น รวมทั้งอำนาจในการบริหาร และแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในการลงทุน ซึ่งข้อมูลที่ได้มาจากผู้ต้องหา และที่ดีเอสไอมีอยู่นั้น มีบางส่วนที่ยังไม่ตรงกัน ในเรื่องของแหล่งที่มาของเงิน
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า ซึ่งเหตุผลที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เข้ามอบตัวช้านั้น เบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างว่า เพิ่งทราบว่ามีหมายจับ แต่ก่อนหน้านี้จะอยู่ด้วยกันทั้ง 3 คนหรือไม่นั้น ตรงนี้ยังไม่มีข้อมูล นอกจากนี้ยังพบว่าทั้ง 3 คนประกอบอาชีพค้าขายและรับจ้าง ที่มีรายได้ไม่สูง เฉลี่ยหลักหมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งพบเงินหมุนเวียนในบัญชีของบางคน คงเหลืออยู่เพียงแค่หลักหมื่น
ส่วนกรณีเรื่องหุ้น 49% ของชวนหลิง จางที่พบในบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มาจากที่ใด พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า เป็นเงินในนามของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป คัมปะนีลิมิเต็ด จำกัด ในฐานะผู้แทนหุ้นแทน
อย่างไรก็ตาม ในท้ายคำร้องของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ได้มีการคัดค้านการขอประกันตัว เนื่องจากทั้ง 3 คนนั้นได้เดินทางเข้ามามอบตัวด้วยตนเอง












