พบศพถูกฆ่าโหดเพิ่มอีก 1 ถูกยิงที่ศีรษะ นำมาทิ้งแม่น้ำโก-ลก เชื่อมโยงคดี 3 ศพ
พบศพถูกฆ่าโหดเพิ่มอีก 1 ถูกยิงที่ศีรษะ นำมาทิ้งแม่น้ำโก-ลก คาดปมเหตุเดียวกับที่พบ 3 ศพเมื่อวาน ตำรวจเร่งคลายปม คาดน่าจะมาจากยาเสพติด
เมื่อเวลา 06.30 น. วันนี้ (22 ก.พ. 66) พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และ ร.ต.อ.เกียรตินรินทร์ ขาวอ่อน รองสารวัตร สภ.แว้ง ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิก็ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครอง เดินทางไปตรวจสอบเหตุพบศพผู้เสียชีวิตเพศชายติดที่บริเวณก้อนหินริมแม่น้ำโก-ลก ช่วงบริเวณบ้านไอร์ปาเซ ม.7 ต.ฆอเลาะ
พบศพอยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้าเสื้อเกี่ยวอยู่กับลวดของหินกระชุ เจ้าหน้าที่จึงได้นำขึ้นมาจากแม่น้ำโก-ลก พบว่าผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ที่บริเวณหน้าผากทะลุท้ายทอย คาดว่าเสียชีวิตมานานประมาณ 3 – 4 วัน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ส่งโรงพยาบาลแว้ง เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ
ต่อมาได้มีญาติของผู้เสียชีวิตมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลแว้ง ทราบชื่อ คือ นายมูห์เซ็ง ยะโก๊ะ 32 ปี ซึ่งหายออกจากบ้านมานานกว่า 4 วัน ส่วนศพผู้เสียชีวิต 3 ศพ ที่คนร้ายนำมาอำพรางใส่ไว้บริเวณกระโปรงท้ายของรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่บริเวณขอบบึ่งจือแร ม.1 ต.แม่ดง อ.แว้ง ประกอบด้วย 1. นายนิเฮง ประเปะ 27 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดที่บริเวณ อกซ้าย 2 นัด อกขวา 1 นัดและกลางหน้าอก 1 นัด รวม 4 นัด 2. นายมูฮัมหมัดอาลียะ เราะห์มัด 38 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดที่บริเวณ อกซ้าย 2 นัด อกขวา 1 นัดและกลางหน้าอกอีก 1 นัด รวม 4 นัด และ 3. นายอัสวี มือลบี 19 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดที่บริเวณใต้ติ้งหูขวา 1 นัด หน้าอกขวา 1 นัด รวม 3 นัด ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าศพพิสูจน์หัวกระสุนปืนที่ฝังอยู่ในร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ในการขยายผลไปสู่กลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้
รวมทั้งได้ตรวจสอบรถยนต์เก๋งยาริส ที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการอำพรางศพ เบื้องต้นทราบว่าเป็นการซื้อขายแบบโอนลอย เจ้าของเดิมอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช
แหล่งข่าวที่ติดตามคลี่คลายคดีดังกล่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โดยภาพรวมผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมด มีประวัติพัวพันเรื่องยาเสพติด ยกเว้น นายอัสรี มือลี ที่ไม่พบประวัติ แต่ได้ตั้งปมประเด็นการเสียชีวิตในครั้งนี้แบบกว้าง คือ พัวพันกับเรื่องยาเสพติด ปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะมีมากเกือบ 10 คน เนื่องจากเมื่อสังหารผู้เสียชีวิตแล้ว น่าจะแยกย้ายกันอำพรางศพ โดยการนำมาทิ้งไว้บริเวณขอบบึงจ่อแร และนำไปทิ้งอำพรางในแม่น้ำโก-ลก ซึ่งมีระยะทางประมาณ 20 ก.ม.
พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า ในเบื้องต้นยังไม่สามารถที่จะสรุปเหตุที่เกิดขึ้นได้ ต้องรอการสืบสวนสอบสวนในเรื่องของประวัติบุคคล และบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ถึงปมเหตุความเป็นไปได้ แต่ให้น้ำหนักในเรื่องของยาเสพติดมากกว่าประเด็นอื่นๆ ซึ่งต้องรอตรวจสอบหลายเรื่อง รวมไปถึงกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่บริเวณดังกล่าว ในการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรถยนต์เก๋ง ที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการีนำศพมาอำพรางไว้












