สืบนครบาล รวบสองผู้ต้องหาคดียาเสพติด ออกอุบายสิบเวรหลบหนีจาก สน.พญาไท
สืบนครบาล รวบสองผู้ต้องหาคดียาเสพติด ออกอุบายสิบเวรหลบหนีจาก สน.พญาไท ก่อนติดต่อขอมอบตัวที่นครราชสีมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. จับกุมตัวกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดย่านรังสิต ตรวจยึดของกลางเป็นไอซ์บรรจุภัณฑ์ถุงชาสีเขียว 80 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 80 กิโลกรัม คีตามีน ชนิดผงสีขาว น้ำหนักรวมกว่า 39 กรัม รวมถึงปืนพก 1 กระบอก และปืนลูกซอง 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก สามารถจับกุมได้ที่บริเวณพื้นที่ รังสิต-ปทุมธานี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมรสืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดย่านรังสิต จอดรถอยู่บริเวณหน้าบ้านภายในซอย รังสิต-ปทุมธานี 14 โดยกลุ่มดังกล่าวมักมีพฤติกรรมมามั่วสุมกันอยู่บริเวณบ้าน ต่อมาวันที่ 17 ก.ย. 67 พบความเคลื่อนไหวที่เชื่อว่าเป็นพฤติกรรมน่าสงสัยที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงเฝ้าสังเกตการณ์ที่บริเวณใกล้เคียง พื้นที่ให้เช่าจอดรถภายในซอย รังสิต-ปทุมธานี 14 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และ บ้านพัก ซอยรังสิต-ปทุมธานี 14 ซอย 9 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
จากการเฝ้าสะกดรอยติดตาม เจ้าหน้าที่พบชายต้องสงสัย ทราบชื่อในเวลาต่อมาว่า นายอ้น ประเสริฐ อายุ 23 ปี จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้นตัว ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 80 ถุง น้ำหนักรวม 80 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดได้จับกุม นายนิพนธ์ อายุ 31 ปี บริเวณบ้านพักภายใน ซอยรังสิต-ปทุมธานี 14 ซอย 9 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ในห้องพัก
ต่อมาขณะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายไว้ที่ สน.พญาไท เนื่องจากสืบนครบาลไม่มีสถานที่ควบคุม เกิดเหตุไม่คาดคิด โดยผู้ต้องหาทั้งสองออกอุบายกับสิบเวร สน.พญาไท อาศัยจังหวะล็อกคอทำร้ายสิบเวรของ สน. จับขังคุกแทน ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด พร้อมกดดันอย่างหนักทุกวิถีทาง จนสุดท้ายผู้ต้องหาขอมอบตัวที่ สภ.สีดา จ.นครราชสีมา จึงทำการคุมตัวกลับมา สน.พญาไท ช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.ย. 67
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนจะถูกจับ วันที่ 17 ก.ย. 67 ช่วงเช้าตรู่ได้ขับรถไปรับไอซ์มาจากผู้ค้าแถวจังหวัดนนทบุรี 100 กิโลกรัม ขับรถมาจอดไว้บริเวณลานจอดรถใกล้บ้าน และได้แบ่งไอซ์ 20 กิโลกรัม ไปไว้ในรถ ต่อมาผู้ต้องหาขับออกไปส่งไอซ์ให้ลูกค้าของผู้สั่งการบริเวณจังหวัดสมุทรสาคร โดยนัดหมายนักบิน (คนรับยาเสพติด) เมื่อส่งยาเสพติดเสร็จได้ขับรถกลับมายังบริเวณหน้าบ้านและออกไปทำธุระ ส่วนค่าจ้างที่ได้นำมาแบ่งกัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทั้งสองรายได้รับทราบ โดยนายอ้นกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” และ “หลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา”
สำหรับนายนิพนธ์ กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป, มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยกฎหมายและ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “หลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา”