ผอ.ศูนย์ปราบน้ำมันเถื่อน ยัน สั่งปลดตำรวจในแชตจ่ายส่วยน้ำมันเถื่อนจริง
ผอ.ศูนย์ปราบน้ำมันเถื่อน ยัน สั่งปลดตำรวจในแชตจ่ายส่วยน้ำมันเถื่อนจริง มอง ข้อสังเกตอัยการ ช่วยให้ตำรวจทำงานรอบคอบขึ้น พร้อมขอให้เชื่อมั่น ’พล.ต.ต.จรูญเกียรติ‘ สอบสวนให้เกิดความสุจริต และเป็นธรรมได้
วันนี้ (20 มิ.ย. 67) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบดำเนินคดีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ ที่หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบจังหวัดชลบุรีเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าได้รายงานความคืบหน้าทางคดีให้กับนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายกฯ กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
พล.ต.อ.ไกรบุญ ยืนยันว่าจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งใน และนอกประเทศ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างถึงที่สุด ซึ่งในฐานะที่ดูแลทั้งศูนย์ปราบน้ำมันเถื่อนฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจแห่งชาติ ขอใช้เป็นหลักประกันว่า จะไม่นำเรื่องนี้มาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมขอให้เชื่อมั่นในการทำงานว่าไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ ตั้งแต่รับตำแหน่งก็จัดเก็บภาษีน้ำมันได้มากขึ้นกว่า 100% แสดงให้เห็นว่าน้ำมันเถื่อนลดลง
ส่วนการป้องกันการขนย้ายน้ำมันทางบก พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า ได้เชิญผู้ประกอบการทั้งหมดมาหารือ โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอเอกสารตารางการเดินรถในทุกเส้นทาง เพื่อให้มีข้อมูลตั้งต้นว่ารถบรรทุกน้ำมันแต่ละคันเมื่อออกมาจากแท่นเติมน้ำมันแล้วจะมีน้ำมันจำนวนเท่าใด จะใช้เส้นทางอะไร โดยทุกคันจะต้องผ่านจุดชั่งน้ำหนักของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงจะรายงานมาที่ศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อนฯ เพื่อติดตามระยะทาง และปริมาณน้ำมัน ตลอดระยะทางการขนส่ง
กรณีห้องแชทสนทนาที่ถูกเผยแพร่ออกมา พล.ต.อ.ไกรบุญ ยอมรับว่าไม่ได้ดูรายละเอียดว่าเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับอะไร แต่รายละเอียดที่มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นเรื่องจริง ส่วนบุคคลที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จะมีความเกี่ยวข้องอย่างไร ต้องรอการตรวจสอบจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้วก่อน ทัังนี้ การสั่งให้หยุดปฏิบัติงานเพื่อให้ผู้ที่ทำงานจะต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้พอ ย้ำว่าจะต้องไม่มีเรื่องการทุจริต และการเรียกรับผลประโยชน์
เมื่อถามถึงประเด็นที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับตำรวจน้ำโดยตรง จะมีการสอบสวนให้เกิดความเที่ยงธรรมได้อย่างไร พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า ขอให้เชื่อใจ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่าจะสามารถทำกระบวนการสอบสวนให้เกิดความสุจริต และเป็นธรรมได้ หากไม่ได้รับความเป็นธรรม และหากพบว่าการสอบสวนไม่ตรงไปตรงมา จะนำจเรตำรวจเข้าไปตรวจสอบด้วยตัวเอง และจะสั่งปลดหัวหน้าชุดตรวจสอบ รวมถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ และจะมอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติเข้าไปจัดการแทน
ส่วนข้อสังเกตของอัยการที่มองว่าการจับกุมน้ำมันตั้งแต่ครั้งแรกเป็นไปอย่างไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า มั่นใจในพยานหลักฐานมาก เพราะได้เห็นหลักฐานทั้งหมดแล้ว ฉะนั้นจะสามารถตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้แน่นอน การเห็นแย้งกันถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะทำให้ตำรวจทำงานได้อย่างรอบคอบขึ้น เพื่อจะได้หาพยานหลักฐานมาตอบทุกข้อสงสัย มั่นใจสามารถติดตามผู้ต้องหาแม้อยู่ต่างประเทศก็ตาม
พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวถึงการติดตามเส้นทางเรือขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าเคนาย (k9) ที่รับขนถ่ายน้ำมันจากเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนของกลางทั้งสามลำ โดยยอมรับว่า ตอนนี้ไม่รู้ว่าเรืออยู่ที่ไหน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าตอนนี้เรือไม่ได้อยู่ในน่านน้ำไทยและอยู่ไกลมาก ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนและการขยายผล และจะกวาดล้างให้หมด