‘ทนายตั้ม’ หวั่นมีเหยื่อปลอมเข้ามาดิสเครดิตทำคดีเป็นเรื่องลวงโลก
วันที่ (20 เม.ย. 65) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือทนายตั้ม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีผู้เสียหายสาวทยอยเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งข้อหากระทำอนาจารและข่มขืนกว่าสิบรายว่า มีผู้เสียหายรายที่ 15 เป็นไฮโซ ติดต่อเข้ามาบอกว่าเคสตัวเองเกิดเมื่อปี 2551 ซึ่งรู้จักกับฝ่ายชายผ่านอินสตาแกรม 4-5 เดือนก่อนจะโดนล่อลวงไปที่คอนโดพร้อมเพื่อน และผู้ต้องหาก็มีการทำอนาจาร กอดจูบลูบคลำ แต่ไม่ได้ถูกข่มขืน
โดยทางเจ้าตัวไปเป็นพยานในคดีหลายราย รวมทั้งคดีของ นางสาว หทัยรัตน์ ธนากิจอำนวย หรือ แอนนา ภรรยาสาวของ ลูกนัท ซึ่งเหยื่อรายนี้เป็นกรณีที่ลูกนัท ธนัตถ์ เผยแพร่หลักฐานแชตผ่านเฟซบุ๊ก ตอนนี้ยังมีคนนัดหมายมาอีก 2 ราย แต่ก็ติดต่อไม่ได้แล้ว เชื่อว่ายังมีเหยื่อติดต่อเข้ามาอีก แม้จะมีคนที่ถูกข่มขืนถอนตัวไป 2 คดีแล้วก็ตาม
นายษิทรา กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ว่า ไม่ทราบว่าพรรคจะดำเนินการอย่างไร เพราะช้าไปแล้ว อีกทั้งพรรคยังไม่มีอำนาจสอบสวน ซึ่งตามจริงพรรคน่าจะทราบพฤติกรรมผู้ก่อเหตุมาก่อนแล้ว เรื่องทางอินเตอร์เน็ตก็มีเยอะแยะ การที่พรรคออกมาแถลงขอโทษมองว่าเพราะถูกทางสังคมกดดันมากกว่า
นายษิทรา กล่าวอีกว่า คดีคงยังไม่ส่งฟ้องในเร็วๆ นี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้กันผู้เสียหายเป็นพยาน 3 ราย จาก 12 คน อย่างไรก็ตาม มีผู้ใหญ่ที่สนิทกับตน และหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง มาเตือนว่าให้ระวังโดนพรรคโต้กลับ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการเตือนในลักษณะไหน แต่ยอมรับว่ากังวลว่าจะมีคนแฝงตัวมาเป็นผู้เสียหายมาทำให้ดูเป็นเกมการเมือง จนทำให้เหยื่อทั้งหมดดูเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมา จากนี้มีใครติดต่อมาต้องระวังมากขึ้น ที่ผ่านมาก็ได้ตรวจสอบทุกเคส บางคนมีแชต ภาพถ่ายหลักฐาน แต่คนที่มาเล่าเหตุการณ์อย่างเดียวก็คงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
นายษิทรา กล่าวต่ออีกว่าตอนนี้ไม่ได้พูดคุยกับผู้เสียหายรายแรกแล้ว เพราะเขาไม่ให้ความร่วมมือกับตน ซึ่งมีตำรวจยศพลตำรวจตรีนายหนึ่ง มีการพูดคุยกับทางแม่ผู้เสียหาย จึงกังวลว่าจะเป็นคนห้ามผู้เสียหายมาคุย ซึ่งตนเองบอกให้ทำหนังสือมอบฉันทะ ให้ไปค้านการประกันตัวผู้ต้องหาที่ศาลแต่ผู้เสียหายรายนี้ก็ไม่ได้ทำ ทั้งนี้ ได้มอบคลิปอีกชิ้น ที่มีการพูดคุยกันระหว่างผู้เสียหายกับตัวผู้ถูกกล่าวหาเป็นหลักฐานส่งให้กับทางตำรวจไปแล้ว
