CRIME

พนง.การท่าเรือฯ ร้อง DSI ถูกหลอกสมัครสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เสียหายกว่า 4 พันล้าน

วันนี้ (19 ก.ค. 65) พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย กว่า 100 คน พร้อมด้วยทนายความ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีถูกหลอกให้สมัครสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และภายหลังพบว่า มีการยักยอกหรือฉ้อโกงเงินประเดิมที่การท่าเรือฯ จะต้องจ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในทันทีที่มีการสมัครเป็นสมาชิก เพื่อชดเชยสิทธิของพนักงานที่มีอยู่ในระบบบำนาญเดิมแต่ ออกมาเข้าระบบกองทุน ทำให้สมาชิกกว่า 2,000 คนได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท

กลุ่มผู้ร้อง ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ เพราะมีการบริหารงานที่ทำให้พนักงานกว่า 2,000 คนได้รับความเสียหาย ดังนี้

1.การท่าเรือและกองทุนสัญญาว่าในวันสมัครเข้าเป็นสมาชิกนั้น การท่าเรือจะจ่ายเงินประเดิมให้พนักงานรวมเป็นเงินประมาณ 4,000 ล้านบาท ไปเข้าบัญชีของพนักงานในกองทุน แต่ความจริงแล้ว ขณะนั้นการท่าเรือไม่มีเงินจำนวนดังกล่าวไปจ่ายให้แก่พนักงานแต่ละคนได้ ซึ่งจากการหลอกลวงว่าการท่าเรือจะมีการนำเงินประเดิมไปเข้าบัญชีของพนักงานในกองทุนนั้น ทำให้พนักงานหลงเชื่อสมัครเป็นสมาชิกกองทุนกว่า 2,000 คน ในปี 2548-2549

2.กองทุนได้จดทะเบียนในปี 2548 แต่ปรากฎว่า หลังจากสมัครเป็นสมาชิกแล้วนาน 5 ปีพนักงานฯ เพิ่มได้รับเงินประเดิมครบถ้วนในปี 2553 แต่ความเสียหายในช่วงเวลา 5 ปีนั้น ทำให้พนักงานไม่มีเงินที่จะนำไปแสวงหาผลประโยชน์ในตลาดหลักทรัพย์ตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับ ผลที่ตามมาคือ ขณะออกจากกองทุนพนักงานนับพันคนได้รับเงินน้อยกว่าพนักงานที่อยู่ในระบบบำนาญเดิมอย่างมาก แต่เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับผู้บริหารการท่าเรือและผู้บริหารกองทุน พบว่าฝ่ายบริหารได้รับเงินเมื่อออกจากกองทุนมากกว่าพนักงานหลายล้านบาท ทั้งที่ผู้บริหารบางคน เงินประเดิมน้อยกว่าหรือเท่ากับพนักงาน

ทั้งนี้ การบริหารงานในระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่ไม่นำเงินจำนวน 4,000 ล้านบาทไปเข้าบัญชีของสมาชิกในกองทุน ตั้งแต่วันสมัครตามข้อบังคับนั้น เป็นเหตุให้พนักงานได้รับความเสียหาย เป็นกรณีพิเศษ เข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 ความผิดมูลฐาน (3) ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน (4) ความผิดเกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้อโกงหรือประทุษร้ายต่อทรัพย์หรือกระทำโดยทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจ สถาบันการเงินหรือ หมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ซึ่งกระทำโดยกรรมการหรือผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดหรือมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องในการดำเนินงานของสถาบันการเงินนั้น และ (5) ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรมหรือหน่วยงานของรัฐหรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น

Related Posts

Send this to a friend