ตร.ร่วมกับสหราชอาณาจักร เปิดตัว ‘สถานีตำรวจนำร่อง’ ยกระดับมาตรฐานการควบคุมตัวผู้ต้องหา
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสหราชอาณาจักร เปิดตัว ‘สถานีตำรวจนำร่อง’ ยกระดับมาตรฐานการควบคุมตัวผู้ต้องหา เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน
วันนี้ (19 มี.ค. 68) เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดตัวโครงการ ‘สถานีตำรวจนำร่อง’ ยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องการควบคุมตัวผู้ต้องหาให้มีมาตรฐานเป็นสากล ณ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน
โครงการสถานีตำรวจนำร่อง เกิดจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสหราชอาณาจักร นำแนวทางการปฏิบัติที่เป็นเลิศ และบทเรียนเกี่ยวกับการควบคุมผู้ต้องหาจากสหราชอาณาจักรมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับกฎหมายและบริบทของประเทศไทย มุ่งเน้นการคุ้มครองผู้ต้องหาให้ปลอดภัยจากการซ้อมทรมาน ป้องกันการเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565
ความร่วมมือในครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน และสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ไปรับการฝึกอบรมจากกองบัญชาการตำรวจนอร์ทัมเบรีย ณ สหราชอาณาจักร และยังเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย จากสหราชอาณาจักร มาให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อนำแนวทางปฏิบัติมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำหลัก Change by Design มาพัฒนาแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการควบคุมตัวผู้ต้องหา เน้นการออกแบบเชิงระบบ เริ่มจากปรับปรุงโครงสร้างห้องควบคุมให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย มีกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ตลอดเวลา และการปฏิบัติงานของตำรวจทุกขั้นตอนต้องเกิดขึ้นในพื้นที่ห้องขัง
นอกจากนี้ ยังพัฒนากระบวนการควบคุมตัวผู้ต้องหาให้มีความปลอดภัยและโปร่งใส โดยประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงสภาพความพร้อมด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้ต้องหาในการถูกควบคุมตัว จัดทำบันทึกควบคุมตัวโดยละเอียด บันทึกทรัพย์สินส่วนบุคคล และตรวจสอบการควบคุมตัวโดยผู้บังคับบัญชา ซึ่งทุกขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถูกบันทึกลงในบันทึกการควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อสร้างกระบวนการที่โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้
หลักปฏิบัติที่สำคัญของโครงการคือ การประเมินความเสี่ยงและสภาพความพร้อมด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้ต้องหาในการถูกควบคุมตัวในโอกาสแรกที่สามารถทำได้ เกิดประโยชน์ในกรณีที่ผู้ต้องหามีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อชีวิต มีอาการบาดเจ็บ หรือมีประวัติการเสพยาเสพติด เนื่องจากการทราบข้อมูลก่อนดำเนินการ ทำให้เจ้าหน้าที่ประจำห้องขังสามารถตัดสินใจได้ว่ามีความจำเป็นต้องส่งต่อผู้ต้องหาไปยังโรงพยาบาลหรือไม่ ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับใช้บันทึกการควบคุมตัวผู้ต้องหา และจะขยายแนวทางการปฏิบัติไปยังสถานีตำรวจในสังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ก่อนจะนำไปใช้ในทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ