CRIME

‘วี วิโอเลต’ ควงทนายฟ้องคนตัดต่อดัดแปลง ภาพ-วิดีโอ อนาจาร ยันเอาผิดถึงที่สุด

‘วี วิโอเลต’ ควงทนายความ ฟ้องคนตัดต่อดัดแปลงภาพ-วิดีโออนาจาร ยืนยันจะเอาผิดให้ถึงที่สุด เตือนคนแชร์ต่อก็มีความผิดร่วมด้วย

วันนี้ (19 มี.ค. 67) วี-วิโอเลต วอเทียร์ นักร้องและศิลปินไทย จากค่าย Universal Music Thailand พร้อม นางสาวกรกช จิตติมาพร ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ รองสารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ณ กองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เกี่ยวกับกรณีที่มีภาพถ่าย และวิดีโอถูกตัดต่อ ดัดแปลง แก้ไข ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม เผยแพร่ในสังคมออนไลน์ นำมาสู่การสร้างความเสียหายและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

วี วิโอเลต เปิดเผยว่าตนเองได้รับข้อความจากแฟนคลับที่ส่งมาให้ผ่านช่องทางส่วนตัว และผ่านค่ายต้นสังกัด ซึ่งเป็นภาพและคลิปวิดีโอที่ถูกนำไปตัดต่อภาพใส่กับร่างกายที่ไม่ใช่ของตนเอง ซึ่งเป็นรูปภาพลามกอนาจาร วันนี้จึงเดินทางมาแจ้งความร่วมกับทนายความ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อจิตใจของตนเองอย่างมาก และกังวลว่าจะทำให้คนเข้าใจผิด เนื่องจากเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงภาพนิ่งอย่างเดียว แต่มีเป็นคลิปวิดีโอเคลื่อนไหวด้วย

วี วิโอเลต กล่าวต่อว่าหลังจากที่ได้เดินทางมาแจ้งความในวันนี้ ทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น มั่นใจในทีมกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่จะนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษได้ และต้องการแจ้งไปถึงสาธารณะชน รวมถึงแฟนคลับทุกคนว่า หากเห็นภาพหรือคลิปวิดีโอดังกล่าวที่มีการตัดต่อรูปหน้าของตนเองลงไป ขอยืนยันว่าภาพดังกล่าวไม่ใช่ตนเอง

ส่วนผู้ที่เผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอต่อ ก็จะมีความผิดเช่นเดียวกัน โดยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะตนเองถูกตัดต่อภาพลักษณะดังกล่าวหลายครั้งแล้ว ทำให้รู้สึกเหมือนเราถูกละเมิดในร่างกาย ทั้งที่ไม่ใช่ร่างกายของเรา รู้สึกถูกเอาเปรียบ รู้สึกไม่ดี ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

“สาเหตุที่ออกมา เพราะมีคนที่โดนแบบนี้เยอะมากในวงการ การที่ออกมาทำแบบนี้เป็นสิทธิ์ที่เราจะมาปกป้องตนเอง อยากสนับสนุนให้ทุกคนที่โดนกระทำดังกล่าวออกมาปกป้องตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก” วี วิโอเลต กล่าว

ด้าน ทนายความกรกช กล่าวว่า ขณะนี้มีข้อมูลเบื้องต้นของผู้กระทำความผิดแล้ว โดยมีการแจ้งความดำเนินคดีตามความผิดของพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (4) และมาตรา 16 รวมทั้งความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 และความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งในส่วนของข้อมูลรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้มาก เพราะเกรงว่าจะทำให้เสียรูปคดี อีกทั้งมีความกังวลว่าหากรูปภาพถูกเผยแพร่ออกไปเยาวชนที่ติดตามจะมีพฤติกรรมเลียนแบบที่ไม่ดี และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ จึงยืนยันว่ารูปภาพและคลิปวิดีโอดังกล่าว ไม่ใช่ วี วิโอเลต แน่นอน เพราะที่ผ่านมา วี วิโอเลต เป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนมาโดยตลอด พร้อมยืนยันว่าจะหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้

Related Posts

Send this to a friend