CRIME

เปิดปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี” ทุจริตเงินทอนวัดเฟส 4 จับรองเจ้าคณะ จ.นครนายก พร้อมเรียกสอบ 11 เจ้าอาวาส

วันนี้ (18 ก.พ. 65) พล.ต.ต.จรูญ เกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ เปิดปฏิบัติการ ‘ล้างบาปปราบอลัชชี ทุจริตเงินทอนวัด’ โดยกระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่ จ.นครนายก จ.นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ตามจับผู้กระทำผิดทุจริตเงินอุดหนุนวัด ของสํานักงานพระพุทธศาสนา และตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด

สำหรับเป้าหมายสำคัญของการตรวจค้น อยู่ที่กุฏิเจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งเป็นสถานที่ที่จำวัดของ “พระสิทธิวรนายก” หรือ “เจ้าคุณแจ๊ค” เจ้าอาวาสวัด หรืออีกตำแหน่งคือ รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก ทั้งนี้เมื่อพบตัวพระสิทธิวรนายก เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นศาลจังหวัดนครนายก เพื่อขอเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานต่างๆภายในกุฏิ ก่อนจะนิมนต์พระสิทธิวรนายก ไปยัง สภ.เมืองนครนายก เพื่อทำการสอบปากคำ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ พร้อมกับนิมนต์เจ้าอาวาสวัดอื่นๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก ที่เกี่ยวข้องอีก 11 วัด มาสอบปากคำที่ สภ.เมืองนครนายด้วย

สำหรับปฏิบัติการนี้ สืบเนื่องจากพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รับการร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบงบอุดหนุนวัดของสํานักงานพระพุทธศาสนา ช่วงระหว่างปี 2550-2559 ของ จ.นครนายก หลังพบความผิดปกติหลายอย่าง จนเชื่อได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จึงลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริง กระทั่งพบว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีทุจริตเงินทอนวัดในคดีเก่าซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี พร้อมพวก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สํานักพุทธฯ ได้ร่วมกับพระสิทธิวรนายก และเจ้าอาวาสวัดต่างๆในพื้นที่ ทุจริตเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธ ที่อนุมัติให้วัดต่างๆในพื้นที่ จ.นครนายก รวม 12 วัด ในวงเงินงบประมาณ 123 ล้านบาท

หลังจากเจ้าอาวาสแต่ละวัดได้รับเงินอุดหนุนแล้ว จะทำการถอนเงินสดออกมาทั้งหมด แล้วนําไปให้พระสิทธิวรนายก จากนั้นก็จะแบ่งเงินเพียงบางส่วนให้วัดต่างๆ คืนไป โดยอ้างว่าจะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปมอบให้สํานักพุทธฯ เพื่อนําไปบริจาคให้กับวัดอื่นๆ ที่ยังขาดแคลนงบประมาณ รวมเงินที่เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียนรวบรวมมาได้กว่า 110 ล้านบาท ก่อนจะนําเงินไปแบ่งกับนายนพรัตน์

จากการสืบสวนยังพบว่า ทั้ง อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนา และเจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ได้นำเงินบางส่วนไปซื้อที่ดินทรัพย์สินต่างๆจํานวนมาก มีหลักฐานยืนยันชัดเจนแล้วว่า ทั้งคู่ได้กว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครนายก ที่มีความสนิทกันจํานวน 3 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 10 ไร่ มูลค่ารวมประมาณ 18.6 ล้านบาท โดยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิแทน ในลักษณะอําพรางปกปิด ถือว่าเป็นการกระทําที่ส่อไปในทางทุจริต และถือเป็นความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงิน จึงนำไปสู่การเปิดฏิบัติการในวันนี้ เพื่อติดตามตรวจค้นจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สินที่ดินกลับคืนสู่พระพุทธศาสนา

Related Posts

Send this to a friend