CRIME

ตร.สอบสวนกลาง แนะนำ “HOT” and “RAIN” หลักปฏิบัติเมื่อเจอวัตถุต้องสงสัย

วันนี้ (17 ต.ค. 65) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แนะขั้นตอนปฏิบัติ เมื่อเจอวัตถุต้องสงสัยในสถานที่ต่างๆ โดยระบุว่า “วัตถุต้องสงสัย” ในที่นี้ หมายความถึงวัตถุใดก็ตาม ที่มีเหตุน่าเชื่อได้ว่าอาจมีระเบิด , ระเบิดแสวงเครื่อง หรือวัตถุอันตรายอื่นๆ ที่จะต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวัตถุระเบิดเข้าทำการตรวจสอบ

โดยหน่วยงาน Cybersecurity and Infrastructure Security Agency ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา ได้แนะนำขั้นตอนการปฏิบัติ ที่สามารถนำมาปรับใช้ในประเทศไทยได้ ดังนี้

1) เมื่อเจอวัตถุต้องสงสัย ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก

2)ห้ามจับ แกะ หรือเคลื่อนย้ายวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว

3) แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบโดยทันที

ทั้งนี้ หากเป็นสถานที่เอกชนหรือสถานที่ที่มีผู้รับผิดชอบดูแล เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ให้แจ้งข้อมูลให้กับผู้รับผิดชอบของสถานที่นั้น ๆ ก่อน แต่หากสถานที่นั้นไม่มีผู้รับผิดชอบดูแล หรือไม่สามารถติดต่อผู้รับผิดชอบได้ ให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่หมายเลข 191 ทันที โดยการแจ้ง จะต้องระบุถึงรายละเอียดของวัตถุต้องสงสัย สถานที่ และอธิบายว่าเหตุใดวัตถุดังกล่าวถึงดูน่าสงสัย

4) ปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนและเส้นทางการอพยพ ที่เจ้าหน้าที่ หรือผู้รับผิดชอบดูแลสถานที่ดังกล่าว ให้คำแนะนำ 5) หากรู้สึกว่ากำลังจะได้รับอันตราย และยังไม่ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ ให้ตั้งสติและอพยพออกจากพื้นที่ โดยการสร้างระยะห่างและสิ่งกำบังเพื่อป้องกันตนเองหากเกิดการระเบิด และ 6) ให้ระมัดระวังเพราะอาจมีภัยคุกคามหรือวัตถุต้องสงสัยอื่นอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง

สำหรับการพิจารณาเบื้องต้นว่าเป็น “วัตถุต้องสงสัย” หรือไม่นั้น ให้ใช้หลักการ “HOT”
H – Hidden “ถูกซุกซ่อนอยู่” โดยสิ่งของดังกล่าวถูกวางไว้ในจุดที่มองเห็นได้ยากหรือถูกซุกซ่อนไว้โดยมีเจตนาอำพรางไม่ให้มองเห็น
O – Obviously Suspicious “น่าสงสัยอย่างชัดเจน” โดยพบสายไฟ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือชิ้นส่วนที่คล้ายระเบิด อยู่ที่สิ่งของดังกล่าว
T – Not Typical “ไม่ปกติ” โดยเป็นสิ่งของที่ปกติไม่ควรอยู่ในสถานที่ดังกล่าว หรืออยู่ในบริเวณที่หากมีการระเบิด จะเป็นอันตรายร้ายแรง

และหากเชื่อว่าวัตถุดังกล่าวเป็นวัตถุต้องสงสัย ให้ดำเนินการตามหลัก “RAIN”
R – Recognize “จำแนก” ว่าวัตถุดังกล่าวอาจเป็นวัตถุระเบิดหรือไม่ โดยดูจากสิ่งบ่งชี้ต่างๆ
A – Avoid “หลีกเลี่ยง” การสัมผัสวัตถุต้องสงสัย และรีบออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยทันที
I – Isolate “ออกห่าง” จากบริเวณที่พบวัตถุต้องสงสัยในระยะที่ปลอดภัยจากการระเบิด
N – Notify “แจ้งเหตุ” โดยจะต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุต้องสงสัย และสถานที่ที่พบ

สุดท้ายนี้ แม้ว่าเหตุระเบิดในประเทศไทยจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ถือเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างร้ายแรง พี่น้องประชาชนจึงควรที่จะศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปฏิบัติในเมื่อเจอวัตถุต้องสงสัย เพื่อเป็นการสร้างสังคมที่ปลอดภัย และลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น หากพบเห็นวัตถุต้องสงสัย ให้แจ้งให้ผู้รับผิดชอบสถานที่ดังกล่าวทราบโดยเร็ว หรือโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่ สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Related Posts

Send this to a friend