หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดท่าอากาศยานจับไอซ์ เตรียมส่งอิสราเอล ลุยเข้มพัสดุใน-ต่างประเทศ

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดว่าเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดท่าอากาศยาน หรือ Airport Interdictoin Task Force (AITF) ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. ศุลกากร บช.ปส. และ ศรภ. ตรวจยึด ไอซ์ 1,034 กรัม ซุกซ่อนในกระติกเก็บความเย็นขนาดเล็ก 3 ใบ ณ ศูนย์ไปรษณีย์ขาออก สุวรรณภูมิ ส่งมาจากจังหวัดเชียงรายเตรียมส่งออกไปปลายทางประเทศอิสราเอล ผลการตรวจสอบ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์ (เมทแอมฟาตามีน) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 1,034 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในผนังกระติกน้ำแข็งขนาดเล็กเก็บความเย็น จำนวน 3 กล่อง กล่องที่ 1 น้ำหนัก 342 กรัม กล่องที่ 2 น้ำหนัก 350 กรัม กล่องที่ 3 น้ำหนัก342 กรัม จึงร่วมกันทำการตรวจยึด และรวบรวมพยานหลักฐาน และจะนำของกลางส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และสืบสวนขยายผลผู้ส่งยาเสพติดต่อไป
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “การส่งออกยาเสพติดไปยังอิสราเอล จะถูกส่งไปยังกลุ่มแรงงานไทย ในอิสราเอล ซึ่งมีการแพร่ระบาดของการใช้ โดยที่ผ่านมาการส่งมี 2 รูปแบบ คือ แบบแรกโดยซุกซ่อนอำพรางไปกับแรงงานซึ่งเดินทางไปยังประเทศอิสราเอล และแบบที่สอง คือ การซุกซ่อนอำพรางกับสิ่งของและส่งผ่านพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ”
การตรวจสอบพัสดุที่จะส่งไปยังต่างประเทศ รวมถึงในประเทศ ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษทั้งระบบ เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีโอกาสถูกใช้สูง เหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่การเดินทางต่างๆ ทำได้ยากขึ้น ทั้งนี้ ข้อกำหนดการส่งพัสดุทุกคนต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง (กรณีเป็นชาวต่างประเทศ) ทุกครั้งก่อนการฝากส่งสิ่งของทางพัสดุทุกประเภท เพื่อให้สามารถตรวจสอบไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมายได้ทันที จึงขอฝากถึงบริษัทขนส่งพัสดุให้เข้มงวดตรงจุดนี้ด้วย
