‘ช่างเบิร์ด’ วอนผู้เกี่ยวข้องสร้างตึก สตง. หยุดโยนความผิด เร่งเยียวยาครอบครัวผู้เสียหาย
วันนี้ (17 เม.ย. 68) นายฐิติพงษ์ โพธิพรหม หรือ “ช่างเบิร์ด” หัวหน้าทีมวางระบบไฟฟ้าของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นครั้งที่ 2 ในฐานะพยาน โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง พร้อมเรียกร้องผ่านสื่อมวลชนให้ผู้บริหาร สตง. และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ออกมาร่วมกันรับผิดชอบและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
นายฐิติพงษ์ เปิดเผยหลังการให้ปากคำว่า การมาให้ข้อมูลครั้งนี้ ได้นำพยานซึ่งเป็นหัวหน้าชุดของตนมาให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย และคาดว่าในส่วนของคดีที่ตนเคยแจ้งความไว้ที่ สน.บางซื่อ อาจจะใกล้ได้ข้อยุติแล้ว โดยหลังจากนี้ DSI จะเป็นผู้รับสำนวนเอกสารทางคดีไปดำเนินการต่อ สำหรับประเด็นที่ให้การในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นการชี้ตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องในบริษัทต่างๆ ระบุหน้าที่ความรับผิดชอบ รวมถึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับพยานที่นำมาประกอบกรณีปัญหาการโอนเงินค่าจ้างจากบริษัท 9PK ซึ่งหยุดชะงักไปก่อนหน้านี้
ส่วนความคืบหน้าเรื่องค่าจ้างที่ผู้รับเหมารายย่อยยังไม่ได้รับจากบริษัท 9PK นั้น นายฐิติพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการส่งเอกสารระหว่างบริษัท 9PK และบริษัทคู่สัญญาจากประเทศจีน ซึ่งทางบริษัทได้แสดงความพร้อมและรับปากว่า หากเอกสารครบถ้วน จะดำเนินการจ่ายเงินให้ผู้รับเหมารายย่อยทุกรายภายใน 15 วัน หรือประมาณช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ “เราคาดหวังว่าจะได้ครบกันทุกเจ้า เพราะเขารับปากไว้ว่าถ้าเอกสารครบ ก็จะจ่ายให้ทันที” นายฐิติพงษ์ ระบุ
เมื่อถามว่าจะสามารถเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่ไม่จ่ายค่าจ้างได้หรือไม่ หัวหน้าทีมวางระบบไฟฟ้า กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยแจ้งไว้ และยืนยันว่าถึงแม้จะได้รับเงินค่าจ้างครบถ้วนแล้ว ก็จะยังคงเดินหน้าดำเนินคดีกับบริษัท 9PK ต่อไป เพื่อต้องการทราบสาเหตุที่แท้จริงของการไม่จ่ายเงิน เนื่องจากมองว่าประเด็นเรื่องเงินค่าจ้างและคดีความนั้นเป็นคนละส่วนกัน
นอกจากนี้ นายฐิติพงษ์ ยังได้ฝากข้อความถึงผู้บริหาร สตง. และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร สตง. ด้วยว่า “ท่านทั้งหลาย อย่าพึ่งพูดเลยเรื่องสร้างตึกใหม่ ตอนนี้กู้ตึกเก่าให้เสร็จก่อนไหม ช่วยเหลือแรงงานที่นอนอยู่ตรงนั้นใต้ตึก สตง. ให้หมดทุกคนก่อนไหม เพราะญาติของพวกเขากินไม่ได้นอนไม่หลับจะผอมตายกันอยู่แล้ว ช่วยเหลือพวกเขาออกมาหน่อย และสิ่งที่สำคัญคือตอนนี้พวกคุณเยียวยาอะไรเขาแล้วบ้าง ไม่ใช่โยนกันไปโยนกันมาอีก“
“อยากให้ทุกส่วนจับมือกันออกมาขอโทษชาวไทยทั้งประเทศ และเยียวยาญาติของพวกเขา เพราะไม่รู้ว่าหน่วยงานไหนจะเยียวยาเขาได้บ้าง ญาติเขาก็ยืนมองตึกที่ถล่มตรงนั้นอยู่ ไม่ใช่โยนกันไปโยนกันมาอีก” นายฐิติพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
ในส่วนของ นายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ออกแบบอาคาร สตง. นั้น มีรายงานว่า DSI ได้ประสานขอความร่วมมือเพื่อให้เข้าให้ข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่มีการกำหนดวันนัดหมายที่ชัดเจน และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเจ้าตัวจะตอบรับเข้าให้ข้อมูลหรือไม่และเมื่อใด แต่ทาง DSI เชื่อว่านายพิมลอาจเป็นบุคคลสำคัญที่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ได้
