พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยัน คนไทยในเมืองเล้าก์ก่ายยังปลอดภัยดี เร่งประสานเมียนมา-จีน
วันนี้ (16 พ.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกนายทุนชาวจีนหลอกไปทำงานในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา ซึ่งขณะนี้เกิดการสู้รบ โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า คนไทยที่อยู่ที่นั่นปลอดภัยดี ตอนนี้ได้หารือกับทางการของเมียนมา เพื่อเตรียมการหาเส้นทางส่งคนไทยกลับประเทศ ซึ่งอาจจะใช้เส้นทางผ่านคุนหมิงประเทศจีน หรือผ่านทางเชียงตุง ประเทศเมียนมา แต่เส้นทางดังกล่าวยังมีการสู้รบอยู่
ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ของคนไทย ขณะนี้มีกลุ่ม NGO และสถานทูตประเทศไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง คอยดูแลอยู่ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เร่งรัดไปยังกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน เพื่อเปิดเส้นทางให้คนไทยจากเมียนมาอพยพเข้าไปในพื้นที่ของจีน ทั้งนี้ ยืนยันว่าคนไทยกว่า 200 คนปลอดภัยดี ส่วนอีก 41 คน ถูกส่งตัวให้กับรัฐบาลเมียนมาแล้ว และวันนี้ได้ประสานกันว่าจะนำทั้ง 41 คนมาส่งที่ด่านท่าขี้เหล็กหรือไม่
นอกจากนี้ ยังหารือไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทยและปลัดสาธารณสุข พร้อมสั่งการไปยังผู้กำกับการ สภ.เชียงราย และศูนย์ต่าง ๆ รวมถึงศูนย์พิทักษ์เด็กสตรีและศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ลงไปในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมใช้สถานที่ของตำรวจตระเวนชายแดนเป็นที่พักและจัดเตรียมแพทย์และเจ้าหน้าที่จาก พม. ดูเรื่องกลไกการคัดแยกเหยื่อ ส่วนในพื้นที่ กทม. ได้หารือกับรองปลัด กทม., ปลัด พม. และปลัดแรงงาน เพื่อเตรียมความพร้อมคัดแยกเหยื่อ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี, กระทรวงการต่างประเทศ และตน เน้นย้ำถึงความสำคัญในการเร่งรัดการอพยพคนออกจากเมืองเล้าก์ก่าย และหว้า ย้ำว่ายังคงเจรจาอยู่ทุกวัน ซึ่งต้องมีการทำงานร่วมกับ 2 ประเทศ คือ จีน และเมียนมา โดยรองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศของจีนตอบรับความร่วมมือในเรื่องของหนังสือเดินทาง ส่วนเมียนมาจะไม่ดำเนินคดีคนไทยในข้อหาลักลอบเข้าเมือง
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้ำว่า คนที่ทำร้ายคนไทยไม่ใช่คนเมียนมา ไม่ใช่กองกำลังพันธมิตร และไม่ใช่กองกำลังหว้า แต่เป็นคนจีนที่ใช้คนไทยไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ ยืนยันดำเนินการเต็มที่ ขอให้ใจเย็น เพราะเป็นเรื่องใหญ่