ตร.เตือน ดัดแปลง-ปลอม ป้ายทะเบียน เสี่ยงคุก 5 ปี
ตร.เตือน ดัดแปลง-ปลอม ป้ายทะเบียน เสี่ยงคุก 5 ปี แนะรีบเปลี่ยนหากป้ายชำรุด ลดความเสี่ยงผิดกฎหมาย
วันนี้ (16 พ.ค. 68) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์จราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ขับขี่จำนวนหนึ่งใช้รถที่ติดตั้งป้ายทะเบียนไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งปรากฏให้เห็นในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะป้ายที่มองไม่เห็นชื่อจังหวัดชัดเจน
กรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน พร้อมแนะนำให้ผู้ขับขี่แก้ไขป้ายให้ถูกต้อง เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ ลดความขัดแย้ง และป้องกันการทำผิดซ้ำ อย่างไรก็ตาม ยังพบการกระทำผิดในหลายรูปแบบ เช่น ตัวอักษรบนป้ายจางเลือน กรอบป้ายบดบังข้อมูลสำคัญ หรือการติดตั้งกันชนที่ปิดบังป้ายทะเบียน
พล.ต.ท.นิธิธร ระบุว่า การติดตั้งป้ายทะเบียนไม่ชัดเจน หรือเลือนลางจนอ่านไม่ออก ถือว่าฝ่าฝืน พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากใช้กรอบป้ายที่บดบังตัวอักษร เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 7 มีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท
ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ การปลอมแปลงหรือดัดแปลงป้ายทะเบียน เช่น การเปลี่ยนตัวเลขหรืออักษรให้ต่างจากความจริง การทำเลียนแบบ หรือการแก้ไขข้อมูลใดๆ ถือเป็นความผิดร้ายแรงตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 60 และอาจเข้าข่ายปลอมเอกสารราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 มีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท อีกทั้งยังอาจโดนข้อหาใช้เอกสารปลอมตามมาตรา 268 เพิ่มเติม
ผู้ขับขี่ที่พบว่าป้ายทะเบียนรถของตนชำรุด สูญหาย หรือซีดจาง ควรดำเนินการขอเปลี่ยนใหม่โดยด่วน ที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ โดยใช้เอกสาร เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนรถ และใบแจ้งความ (ในกรณีป้ายสูญหาย) ซึ่งขั้นตอนไม่ซับซ้อนและใช้เวลาไม่นาน
พล.ต.ท.นิธิธร ยังเน้นย้ำว่า การมีป้ายทะเบียนที่ถูกต้องไม่ใช่เพียงแค่เรื่องกฎหมาย แต่ยังเป็นเรื่องของความปลอดภัยสาธารณะ หากเกิดอุบัติเหตุหรือการกระทำผิด การอ่านป้ายทะเบียนได้ชัดเจนจะช่วยในการสืบสวนและจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเหตุผิดปกติ หรือต้องการสอบถามเส้นทาง สามารถโทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจทางหลวงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสายด่วน 1193
