CRIME

โฆษก ตร.ยัน จนท.บังคับใช้ กม.เข้มข้น กรณีชาวจีนถือวีซ่านักท่องเที่ยวทำธุรกิจในไทย

โฆษก ตร. แจงข้อกังวล ชาวจีนถือวีซ่านักท่องเที่ยวทำธุรกิจในไทย ยืนยัน เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น

วันนี้ (16 ม.ค. 66) พลตำรวจตรี อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารย่านเยาวราช มีข้อกังวลประเด็นชาวจีนถือวีซ่านักท่องเที่ยวทำธุรกิจในไทย โดยระบุว่า กลุ่มชาวจีนรุ่นใหม่ที่มาลงทุน ใช้นอมินีหรือมีเพียงวีซ่านักท่องเที่ยว เข้ามาประกอบธุรกิจหลากหลายประเภทในย่านเยาวราช เช่น ร้านอาหาร ร้านค้าขาย ฯลฯ

ผลกระทบที่เกิดขึ้น คือ เม็ดเงินกระจายสู่ท้องถิ่นน้อยลง ผู้ประกอบการไทยจะประสบปัญหาในระยะยาว ขณะที่รูปแบบการใช้จ่าย จะใช้จ่ายผ่านระบบของจีน ระหว่างคนจีนกับคนจีนด้วยกัน รวมถึงสามารถเปิดบัญชีได้ แต่ไม่ทราบว่าปลายทางของเงินจะกลับไปอยู่ที่ประเทศต้นทางหรือไม่ แต่ที่เห็นชัดเจนคือ ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนกับนักธุรกิจชาวไทย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่มีโทษทางอาญา และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะหน่วยงานตรวจสอบและบังคับใช้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 สรุปดังนี้

1) คนต่างด้าวถือหนังสือเดินทางสัญชาติจีน สามารถเข้าประเทศไทยได้โดยสามารถขอรับการตรวจลงตราที่ท่าอากาศยาน VOA Visa on arrival ประเภทการท่องเที่ยว 15 วัน ซึ่งปัจจุบันมีมติคณะรัฐมนตรี และประกาศกระทรวงมหาดไทย ขยายให้อยู่เป็นจำนวน 30 วัน และเจ้าของพักอาศัยหรือผู้ครอบครองจะต้องแจ้งที่พักอาศัยให้เจ้าหน้าที่ทราบ เมื่อรับคนต่างด้าวเข้าพักในประเทศไทย

2) กรณีที่คนต่างด้าวเข้ามาท่องเที่ยว จะต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์คนเข้าเมือง ซึ่งกฎหมายห้ามมิให้ประกอบอาชีพต้องห้าม หรือประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ หากฝ่าฝืนจะเป็นความผิดตามมาตรา 12(3) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พุทธศักราช 2522 หรือมาตรา 101 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พุทธศํกราช 2560 และตามมาตรา 37(1) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พุทธศักราช 2522 ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา และเป็นเหตุให้ต้องส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และถูกห้ามมิให้เข้ามาในประเทศไทยตามเงื่อนไขที่กำหนด

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและกฎหมายหลายฉบับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่อไป โดยจะให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว สันติบาล และตำรวจในพื้นที่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนให้ทราบว่า คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พุทธศักราช 2522 และพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พุทธศักราช 2560 หากฝ่าฝืนมีความผิดทางอาญาและมาตรการห้ามเข้าประเทศต่อไป อีกทั้ง นายจ้างหรือผู้รับคนต่างด้าวเข้าพักจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้เช่นเดียวกัน” โฆษก ตร. กล่าว

Related Posts

Send this to a friend