‘8 ชม.ปิดล้อมชายคลั่ง!’ ท่าทีอ่อนลงแต่ยังถือปืน-พกไออีดี รอง ผบช.น. ย้ำเน้นเจรจาไม่บุกชาร์จ
วันนี้ (15 พ.ค. 68) เมื่อเวลา 15.00 น. สถานการณ์ตึงเครียดยืดเยื้อกว่า 8 ชั่วโมง กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 เข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมนายณัฐวัชต์ (หรือ เต้) อายุ 31 ปี ชายคลุ้มคลั่งซึ่งใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าหลายนัด และมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าจับบุคคลในบ้านเป็นตัวประกัน เหตุเกิดภายในชุมชนซอยวัดลครทำ ถนนอิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมพื้นที่โดยรอบชุมชนอย่างเข้มงวด มีการสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือเป็นระยะ และใช้โดรนบินสังเกตการณ์พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยมี พลตำรวจเอก อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโท สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมบัญชาการและติดตามปฏิบัติการครั้งนี้อย่างใกล้ชิด
พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการเจรจา โดยผู้ก่อเหตุมีท่าทีอ่อนลงบ้างแล้ว แต่ยังคงถืออาวุธปืนเป็นระยะ และยังไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ จากการสอบถามเพื่อนของผู้ก่อเหตุ ทราบว่านายณัฐวัชต์ต้องการทำร้ายตัวเอง และมีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปเพื่อทำร้ายตนเอง ซึ่งตามยุทธวิธีตำรวจไม่สามารถดำเนินการเช่นนั้นได้ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ถึงจุดวิกฤตที่ผู้ก่อเหตุจะไปทำร้ายบุคคลอื่น
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่จึงต้องยึดหลักการเจรจาเป็นสำคัญ และรอให้ผู้ก่อเหตุมีอาการสงบลงจากฤทธิ์ยาเสพติดและความเครียดสะสม ขณะนี้นายณัฐวัชต์ยังมีสติและสามารถพูดคุยตอบโต้ได้ แต่ยังคงมีอาการคลุ้มคลั่งอยู่ จึงจำเป็นต้องใช้การเจรจาต่อรองต่อไป เนื่องจากยังไม่ได้ยิงหรือทำร้ายชาวบ้าน อีกทั้งต้องรอให้อารมณ์เย็นลงเพื่อให้การพูดคุยด้วยเหตุผลเป็นผล โดยเจ้าหน้าที่จะพยายามสื่อสารว่าการกระทำของผู้ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านโดยรอบ
พลตำรวจตรี นพศิลป์ ยืนยันว่า ขณะนี้ภายในบ้านที่เกิดเหตุไม่มีบุคคลอื่นอยู่แล้วนอกจากตัวนายณัฐวัชต์ เนื่องจากเป็นบ้านของญาติ ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ปล่อยตัวทุกคนออกมาหมดแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนเพื่อนบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งอพยพออกจากพื้นที่ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย และไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุโดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ พลตำรวจตรี นพศิลป์ ยอมรับว่าได้รับข้อมูลจากเพื่อนของผู้ก่อเหตุว่า นายณัฐวัชต์ได้ประกอบระเบิดแสวงเครื่องขึ้นเอง โดยใช้ดินเทาจากลูกไข่ที่ใช้ในประทัดสำหรับไล่นกมาดัดแปลง และพร้อมที่จะจุดชนวนตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีทั้งอาวุธปืน มีด และระเบิดดังกล่าว จึงจำเป็นต้องให้เวลาผู้ก่อเหตุสงบสติอารมณ์มากขึ้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภรรยา ลูก พ่อ และพี่สาวของผู้ก่อเหตุมาช่วยในการเจรจาแล้ว แต่นายณัฐวัชต์ปฏิเสธที่จะพูดคุยกับบุคคลเหล่านี้ สำหรับประวัติของผู้ก่อเหตุนั้น พลตำรวจตรี นพศิลป์ ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดี ยาเสพติดหลายครั้ง ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม












