CRIME

‘สันธนะ’ แถลงโต้เดือด ‘เสรีพิศุทธิ์ – ชูวิทย์’

‘สันธนะ’ แถลงข่าวโต้เดือด ‘เสรีพิศุทธิ์ – ชูวิทย์’ เล่าความสัมพันธ์ในวันเก่า พร้อมเปิดภาพถ่ายคู่กัน หลังชูวิทย์ บอกไม่เคยรู้จัก จี้สอบการเสียภาษีจากธุรกิจอาบอบนวด 4 พันล้าน

วันนี้ (12 พ.ย. 65) เวลา 16:00 น. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล จัดแถลงข่าวตอบคำถามสื่อมวลชน เกี่ยวกับกรณีวิวาทะกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย และคนอื่น ๆ พร้อมเปิดเผยข้อมูลหลักฐานสำคัญ รวมถึงเรื่องกลุ่มทุนจีนสีเทา ซึ่งจะเตรียมเข้าพบกลุ่ม 3 ป. และผบ.ตร. ในวันจันทร์นี้

นายสันธนะ กล่าวถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ออกมาระบุว่าไม่เคยรู้จักกับตนเอง และกล่าวหาว่าเป็นโจร โดยสันธนะยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พร้อมระบุว่า ตนเอง และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์เคยรู้จักกันมาก่อน และเคยถูกเชิญไปที่ทำการพรรค เพื่อพูดคุยกันอยู่หลายชั่วโมง ซึ่งมีพยานคือลูกน้องทั้ง 2 ฝ่าย เพียงแค่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งหากว่าตนเป็นโจรจริง ๆ ทำไมถึงเชิญโจรไปที่พรรค แล้วไม่เรียกตำรวจมาจับ อีกทั้งประวัติตนเอง ก็ไม่เคยต้องโทษติดคุก

ประเด็นต่อมา คือกรณีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ นายสันธนะ ระบุว่า ขอเรียกร้องให้มีหน่วยงานมาตรวจสอบรายได้ และการจ่ายภาษี ที่ได้จากการขายกิจการอาบอบนวด มูลค่า 4 พันล้านบาท ว่าได้จ่ายภาษีหรือไม่ จึงอยากให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ หรือถ้าบริสุทธิ์ใจ ก็ขอให้เซ็นมอบอำนาจมาให้ตนเองเพื่อที่จะไปตรวจสอบ

นายสันธนะ กล่าวต่อว่า ตนเองมีเอกสารสำคัญของการซื้อขายธุรกิจของชูวิทย์ทั้งหมด ซึ่งได้มาจากชายคนหนึ่ง ชื่อโกลัก พร้อมระบุว่า ชื่อนี้ นายชูวิทย์ คงรู้จักดี

ส่วนการที่นายชูวิทย์ มีปัญหากับตนเอง หลังจากที่ได้ออกมาแฉเรื่องการใช้ยาเสพติด ในผับ และโรงแรมของลูกชายของนายชูวิทย์ โดยนายสันธนะ อ้างว่า ในช่วงค่ำวันนั้น ลูกชายของนายชูวิทย์ โทรมาหาตน แต่ไม่ได้รับสาย ซึ่งถ้าไม่มีพิรุธอะไร ทำไมถึงต้องโทรมาหา

รวมทั้งเหตุการณ์ที่ สน.ทองหล่อ วันนั้นที่มีการท้าต่อยกัน และอ้างว่าไม่รู้จักกันตนเอง นายสันธนะได้ตั้งคำถามผ่านสื่อไปว่า แล้วก่อนหน้านี้ ใครที่มาเชิญไปนั่งเล่นที่บ้านทรงไทย ในซอยสุขุมวิท 10 รวมถึงการที่ตนเองมีการยกนิ้วโป้งให้ แล้วพูดว่าเยี่ยม ในวันเกิดเหตุ ก็เป็นการชมเหมือนในอดีต ซึ่งก็เคยทำเช่นนี้มาก่อน

นอกจากนี้ นายสันธนะ ยังได้นำภาพถ่ายที่เคยถ่ายรูปร่วมกัน มาให้สื่อมวลชนได้ดู

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ นำคลิปที่นายสันธนะร้องไห้มาลงเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นช่วงที่ตำรวจนำหมายจับ 8 หมาย มาแสดงการจับกุม นายสันธนะ ระบุว่า ในช่วงนั้นเป็นคดีตลาดใหม่ดอนเมือง ตนเองได้เข้าไปกราบพ่อ และแม่ ก่อนมอบตัวกับตำรวจ จึงเกิดความทราบซึ้ง น้ำตาเลยไหลออกมา เพราะรู้ว่าอาจจะเป็นการลาครั้งสุดท้าย เมื่อถูกจับกุมแล้วก็ยากที่จะได้ออกมา

ส่วนเรื่องของนายทุนจีนสีเทา ที่นายสันธนะเข้าไปช่วยเหลือนั้น นายสันธนะยืนยันว่านักธุกิจรายนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่กลับถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งตำรวจระบุว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีหมายจับรายใหญ่ เกี่ยวกับบุคคล ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับนายทุนจีน นายสันธนะ ประกาศท้าผ่านสื่อไปถึงคู่กรณีของตัวเองว่า หากหมายจับมีชื่อนายสันทนะ ประยูรรัตน์ อยู่จริง ก็พร้อมถูกดำเนินคดี แต่หากไม่มี ก็ขอให้บุคคลที่กล่าวหาตน มากราบขอขมา โดยจะต้องเว้นระยะห่าง และเข้ามาด้วยความนอบน้อม

ทั้งนี้ นายสันธนะ เปิดเผยว่า ในเรื่องดังกล่าว ตนเองจะนำข้อมูล ไปเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการทำเอกสารเพื่อขอเข้าพบก่อน เนื่องจากพบว่าธุรกิจสีเทาของกลุ่มคนจีนที่จับกุมนั้น มีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อยากให้สังคมเข้ามาร่วมสังเกต ว่ากลุ่มคนพวกนี้เข้ามาเมืองไทยนานแล้ว แต่ทำไมถึงเพิ่งมาจับกุม

ส่วนในวันจันทร์ที่ 14 พย.นี้ ในเวลา 10:00 น. จะได้ทางขอเข้าพบ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นเอกสารดังกล่าวให้ตรวจสอบ

Related Posts

Send this to a friend