‘วิสนุ’ ชี้ ‘สอบสวนกลาง’ มีอำนาจฟันวินัยตำรวจทางหลวงพัวพันส่วยรถบรรทุกได้เอง
‘วิสนุ’ ชี้ ‘สอบสวนกลาง’ มีอำนาจฟันวินัยตำรวจทางหลวงพัวพันส่วยรถบรรทุกได้เอง ด้านจเรตำรวจ จะมุ่งสอบ ตร.ภูธรทั่วประเทศ คู่ขนาน เพื่อความรวดเร็ว แย้ม ภายใน 15 วัน ได้ความชัดเจน ตำรวจนายไหนถูกสอบวินัย
วันนี้ (12 มิ.ย. 66) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการตรวจสอบข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก ภายหลังจากที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้ายื่นเบาะแส เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น โดยระบุว่า ขณะนี้ ในส่วนของจเรตำรวจได้มีการมอบหมายให้ พล.ต.ท.ฏิษพจน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. รักษาราชการแทน รองจเรตำรวจ เป็นประธานคณะทำงานในเรื่องนี้ โดยจเรตำรวจแห่งชาติ จะมุ่งเน้นการตรวจสอบข้าราชการตำรวจในสังกัดภูธรต่างๆ ที่ปรากฏข้อมูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เช่น ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ส่วนข้าราชการตำรวจทางหลวง ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จะเป็นผู้ดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนทางวินัย ซึ่งการทำงานของจเรตำรวจ จะทำแบบคู่ขนานกันไป เพื่อความรวดเร็ว
พล.ต.อ.วิสนุ ระบุอีกว่า ยังจะต้องมีการหารือร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น กรมการขนส่งทางบก เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพราะมีเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องเช่น เรื่องกฎหมายต่างๆ หรือเรื่องของเครื่องชั่งน้ำหนักที่ในแต่ละพื้นที่อาจจะมีความคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อยหลัก 1-200 กิโลกรัม ที่อาจจะต้องมาหารือกันอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าต่อจากนี้ผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกที่ปฏิบัติถูกต้อง จะต้องได้รับความสะดวกสบายในการขนส่งตามกฎหมาย จะไม่มีการกลั่นแกล้งหรือการขัดขวางในการขนส่ง และคาดว่าไม่เกินภายใน 15 วันจะมีความชัดเจนว่าจะมีตำรวจนายใดบ้าง ที่จะถูกสอบสวนทางด้านวินัยจากเรื่องดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ฏิษพจน์ ระบุว่า ในส่วนของที่นายวิโรจน์ นำเบาะแสมาส่งให้ จากการตรวจสอบพบว่าข้อมูลที่นายวิโรจน์นำมาให้เป็นเบาะแสที่ไม่ได้มีการระบุตัวพยาน ทำให้คณะทำงานจะต้องมีการสืบสวนข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อระบุตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือบุคคลที่สามารถให้ข้อมูลในฐานะพยานได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการสั่งการให้ กระจายไปตรวจสอบตามเบาะแส คาดว่าใช้เวลาไม่นาน แต่เบื้องต้นจากข้อมูลพบว่ามีสติกเกอร์จำนวนกว่า 46 แบบที่เข้าข่าย