เด้ง ผู้การนครปฐม-ผกก.สภ.เมืองนครปฐม เซ่นคดียิงสารวัตรทางหลวง
สั่งเด้ง ผู้การนครปฐม-ผกก.สภ.เมืองนครปฐม เซ่นคดียิงสารวัตรทางหลวง หลังร่วมงานเลี้ยงกำนันนก ชี้ประชาชนอาจขาดความเชื่อมั่น-กระทบต่อภาพลักษณ์ตำรวจ
วันนี้ (11 ก.ย. 66) พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 มีคำสั่ง ตำรวจภูธรภาค7 ที่ 626/2566 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการและรักษาราชการแทน
โดยให้ พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และ พ.ต.อ. ภูภณ ทัพเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 7 โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (งานบริหาร) ที่รับผิดชอบ งานศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 7 มอบหมาย โดยให้อยู่ในการกำกับดูแลของ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (งานบริหาร)
และให้ พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รักษาราชการแทน ในตำแหน่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม อีกหน้าที่หนึ่ง และให้ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม อีกหน้าที่หนึ่ง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีเมื่อคืนวันที่ 6 กันยายน 2566 เกิดเหตุ นายธนัญชัย หรือหน่อง หมั่นมาก ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้รับบาดเจ็บขณะที่ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ภายในบ้านพักของ นายประวีณ หรือนก จันทร์คล้าย กำนันตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้สอบสวน ข้าราชการตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกนาย ต่อมามีข้าราชการตำรวจในสังกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐมถูกออกหมายจับ และต้องหาคดีอาญา ประกอบกับปรากฏภาพตามสื่อสังคมออนไลน์และสำนักข่าวต่าง ๆ ได้มีการนำเสนอภาพ การจัดงานเลี้ยงของนายประวีณ หรือนก จันทร์คล้าย ซึ่งปรากฏภาพข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมในงานเลี้ยงดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเชื่อว่าอาจมีข้าราชการตำรวจความสนิทสนมกับนายประวีณ หรือนก จันทร์คล้าย และอาจทำให้สังคมขาดความเชื่อมั่นในทางกฎหมายและการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อภาพลัษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค7 เพื่อให้การสอบสวนคดีเกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพในการสอบสวนจึงมีคำสั่งดังกล่าว
อนึ่ง ข้าราชการตำรวจที่ถูกสั่งให้มาปฏิบัติราชการตามคำสั่งดังกล่าว มีสิทธิร้องทุกข์ต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.พ.ค.ตร. ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 147 และมาตรา 174 ประกอบ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการร้องทุกข์ พ.ศ.2547 ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบเรื่อง
อันเป็นเหตุให้ร้องทุกข์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2566 เป็นต้นไป












