หัวหน้าชุดคดีหมูเถื่อน ยืนยัน DSI ดำเนินคดีทุกคนที่กระทำผิด

จ่อสอบ 2 จนท.กรมศุลฯ-กรมปศุสัตว์ สัปดาห์หน้า หลังพบเอกสารลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนไก่ชิปปิ้งเดียวกับหมูเถื่อน เผยภรรยา ‘เฮียเก้า’ ติดต่อสามี-ลูกไม่ได้ รับจะติดต่อให้กลับไทยพบ พงส.

วันนี้ (11 ม.ค. 67) เวลา 13:40 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคดีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังนำเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำหมายจับ นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย เข้าตรวจค้นเอกสารหลักฐาน และสอบสวนภรรยาเฮียเก้า ภายในอาคารพาณิชย์ที่ทำการ บริษัท โกลเด้น ชาวเวอร์ เทรดดิ้ง จำกัด แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร (กทม.)

พ.ต.ต.ณฐพล ชี้แจงผลการตรวจค้นในวันนี้ว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เฮียเก้าพักอาศัยอยู่ พบเอกสารหลักฐานที่เฮียเก้าส่งออกไก่ไปต่างประเทศ โดยมีบริษัทที่ดำเนินกับเฮียเก้าอยู่ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะไปดำเนินการสอบสวนต่อไป

พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยข้อมูลที่ได้จากการสอบสวนบุคคลที่อยู่บ้านว่า เฮียเก้า ออกจากไทยไปตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2566 แต่ยังไม่กลับเข้ามาในประเทศไทย โดยไปติดต่อธุรกิจที่ประเทศจีน ส่วนผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งนั้น เดินทางไปฮ่องกง ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2566 โดยยังไม่มีกำหนดกลับมาทั้ง 2 คน และตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้ ทั้งนี้ บุคคลที่อยู่ในบ้าน จะติดต่อให้ทั้ง 2 คนกลับมาพบพนักงานสอบสวนต่อไป

สำหรับการประกอบธุรกิจนั้น พ.ต.ต.ณฐพล ระบุว่า ภรรยาของเฮียเก้า ประกอบธุรกิจผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปร่วมกันกับเฮียเก้า แต่เรื่องนำเข้าชิ้นส่วนไก่นั้น เฮียเก้า เป็นผู้ดำเนินการร่วมกับ “นายมิกซ์” ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกัน ขณะเดียวกัน พบว่ามีบริษัทขนส่ง (Shipping) ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการขนส่งไก่ของเฮียเก้า ประมาณ 2 บริษัท แต่ขอปิดชื่อไว้ก่อน พนักงานสอบสวนจะเชิญทั้ง 2 บริษัทมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่อไป เนื่องจากไทยห้ามนำเข้าสินค้าไก่เด็ดขาด

นอกเหนือจากผู้ต้องหา 2 รายแรก คือ เฮียเก้า และลูกชายแล้ว พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยรายละเอียดของผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลืออีก 2 รายว่า เป็นหญิงชาวไทยเจ้าของบริษัท และชายชาวจีน ที่กระทำความผิดในฐานะกรรมการของบริษัทที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันกับ 2 รายแรก ส่งชิ้นส่วนไก่ไปยังประเทศจีน ในลักษณะและชิปปิ้งเดียวกันกับเฮียเก้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน 9 ชิปปิ้งของหมูเถื่อนกลุ่ม 161 ตู้ และจากการตรวจสอบเอกสารล่าสุด ยังพบอีกหลายชิปปิ้งเป็นการกระทำความผิดด้วย

พ.ต.ต.ณฐพล ย้ำว่า หมายจับ 2 ใน 4 หมายนั้น ภรรยาของเฮียเก้า รับปากว่า จะประสานให้กลับมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนหมายจับอีก 2 หมายที่เหลือนั้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอยู่ต่างประเทศ มีการประสานจะเข้ามามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนแล้ว คาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ไม่มีการกำหนดเดดไลน์ให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายมารายงานตัว เนื่องจากมีหมายจับจากศาลอยู่แล้ว หากเจอตัวก็จะดำเนินการจับกุมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวถึงบริษัทที่นำเข้าชิ้นส่วนไก่นั้นว่า มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่องโยงกับขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนหลายรายที่ถูกดำเนินคดีอยู่ โดยมีบริษัทเจ้าหนึ่งยอมรับว่า ได้รับเอาชิ้นส่วนไก่ มาส่งโรงงานที่เกี่ยวข้องกับเฮียเก้าด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีเส้นทางการเงินของเฮียเก้า ไปถึงสมาคมที่เกี่ยวข้องกับเฮียเก้าด้วยหรือไม่ พ.ต.ต.ณฐพล ระบุว่า ได้ขอให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินอยู่ว่า มีความเกี่ยวข้องอย่างไร ขณะที่รายละเอียดของสมาคมนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับกรณีตีนไก่สวมสิทธินั้น พ.ต.ต.ณฐพล คาดว่า เป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออก จะเชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐ 2 คน จากกรมศุลกากร และกรมปศุสัตว์ มาให้ข้อมูลในสัปดาห์หน้า เพื่อตรวจสอบขั้นตอนและวิธีการนำเข้าและส่งออก รวมถึงโควตาของบริษัทด้วย

พ.ต.ต.ณฐพล ยืนยันในการทำคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษว่า หากพบผู้ใดเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนร่วมในการกระทำผิด จะดำเนินการทุกคน แม้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง