CRIME

‘พ.ต.อ.ทวี’ ตั้งเป้า ควิกวิน 100 วันแรกวางแนวทางปฏิบัติ แก้ปัญหายาเสพติด

เริ่มคิกอ๊อฟปฏิบัติการ 1 ธ.ค. นี้ พร้อม ตั้งจุดสกัดกั้นเข้มงวด โดยเฉพาะภาคเหนือ-อีสาน รอหารือกระทรวงสาธารณสุข ปมกัญชาเสรี

วันนี้ (10 พ.ย. 66) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมรับฟังและให้ข้อคิดเห็นจากการนำเสนอผลในการประชุม

โดยมีกลุ่มย่อย 12 กลุ่ม ที่แบ่งตามด้านและเป้าหมายต่างๆ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล อาทิ การกำหนดพื้นที่สกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน ตามมาตรา 5 (10), การลดความเดือดร้อนประชาชนจากผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวช, การสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์, การสืบสวนปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ เป็นต้น

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นโยบายหลักที่ต้องการให้เห็นผลภายในหนึ่งปี ในเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดให้ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อทำให้ประชาชมีความเชื่อมั่น ซึ่งต้องยอมรับว่ากฎหมาย กฎระเบียบ และหลักเกณฑ์ทุกชนิด เมื่อออกมา ผู้ค้ายาเสพติดหรือผู้ที่มีผลประโยชน์แก่ยาเสพติดเหล่านี้ จะมีการพัฒนาตลอดเวลา หากไม่มีการประชุมหรือสัมมนาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายยาเสพติดให้เข้าใจตรงกัน คนที่กระทำความผิดก็จะพัฒนาต่อไปได้ ที่สำคัญคือทำให้เห็นถึงความตั้งใจและแนวนโยบายที่ให้ไว้ เพื่อจะนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าใน 100 วันแรก จะมีการวางแนวทางปฏิบัติ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 66 เพื่อให้เห็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม

โดยนโยบายที่จะเริ่มปฏิบัติวันที่ 1 ธ.ค. 66 นี้ พ.ต.อ.ทวี เผยว่า เรื่องของการสกัดกั้น ต้องมีการตั้งศูนย์บัญชาการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ รวมถึงใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 5(10) เพื่อป้องกันการนำเข้ามายังภายในประเทศ โดยเฉพาะ
ที่มาจากภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ

ส่วนเรื่องของ “ผู้เสพยาเสพติด = ผู้ป่วย” พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ถ้าผู้เสพสมัครใจก็ให้เข้าไปรักษากับทางกระทรวงสาธารณสุข หากไม่สมัครใจก็ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยคนกลุ่มนี้ต้องอาศัยอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ซึ่งรวมถึงผู้เสพอื่นๆ ที่ตำรวจมักพบเจอ คือ มีอาการทางจิตเวช รู้สึกหลอนประสาท หรือก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ดังนั้นเป้าหมาย Quick Win จะต้องนำตัวผู้ป่วยมาบำบัด เพื่อให้สังคมรู้สึกว่ามีการดำเนินการแก้ไข และป้องกันผู้เสพยาเสพติดที่จะมีจำนวนมากขึ้นในอนาคต พร้อมเชิญให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยดูแล บำบัดและฟื้นฟู

ด้านการบริหารจัดการยาเสพติด หากมีข้าราชการหรือผู้ที่มีส่วนไปเกี่ยวข้องในการลำเลียงยาเสพติด จะต้องมีมาตราการในการดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ และใช้มาตรการทางทรัพย์สิน รวมถึงการฟอกเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือกฎหมายของกรมสอบสวนพิเศษในการจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจังและเด็ดขาด พร้อมระบุว่า ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เห็นแสงสว่างในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ว่าจะต้องดีขึ้น พร้อมแผนการปฏิบัติและนวัตกรรมใหม่ๆที่คิดขึ้นมา ถือว่าการประชุมในวันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี

ส่วนเรื่องพระราชบัญญัติกัญชา เผยว่า ต้องมีการหารือกับกระทรวงสาธารณสุขก่อน ซึ่งในการแก้ปัญหายาเสพติด ต้องมีการแก้กฎหมายและร่างพระราชบัญญัติกัญชาในส่วนที่ถูกปัดตกไป เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดมาทำลายประชาชน

Related Posts

Send this to a friend