เปิดภาพแหล่งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์แห่งใหม่ในเมียนมา
เปิดภาพแหล่งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์แห่งใหม่ในเมียนมา กลางหุบเขา ‘บ้านช่องแคบ ‘ ริมน้ำเมย ตรงข้ามบ้าน อ.พบพระ จ.ตาก หลังพบเหยื่อค้ามนุษย์ชาวโมร็อกโก ขณะที่สถติการจับกุมบุคคลต่างด้าวช่วง 9 เดือนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก มากถึง 1,843 คน พบมาจากทั่วโลก
The Reporters ติดตามปัญหาอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งก่อนหน้านี้มีแหล่งอาชญากรรมในเขตเมืองใหม่ ชเวก๊กโก่ และ เคเคปาร์ค ในจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมย อ.แม่สอด จ.ตาก กลายเป็นแหล่งธุรกิจจีนเทา ที่เปิดบ่อนคาสิโน และคอลเซ็นต์เตอร์ ซึ่งหลอกลวงคนจากหลายชาติมาทำงาน ทั้งชาวจีน เมียนมา ไทย และพบว่ามีต่างชาติ เช่น เคนยา แอฟริกาใต้ ยูกันดา มาเลเซีย เวียดนาม และอินเดีย เป็นต้น ถูกนำพามาทำงานและขอความช่วยเหลือมายังประเทศไทย
ล่าสุดมีแหล่งอาชญากรรมแห่งใหม่ ที่ตั้งอยู่ในบ้านผาลู จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งมีการร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากเหยื่อการค้ามนุษย์ชาวโมร็อกโก ที่มีการส่งโลเคชั่นว่าถูกกักขังอยู่ในพิกัด ริมแม่น้ำเมย ซึ่งจากการตรวจสอบที่ตั้งพบว่าเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมย ตรงข้าม บ้านช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก
ลักษณะที่ตั้งพบว่า ตั้งอยู่กลางหุบเขา ริมแม่น้ำเมย ห้อมลอบไปด้วยพื้นที่ป่า ในฝั่งไทยจะเป็นไร่ข้าวโพด ส่วนฝั่งเมียนมา มีการตั้งชุมชนใหม่ ที่ขยายตัวมาในช่วง 2-3 ปี โดยพื้นที่นี้อยู่ในการควบคุมของ กองกำลังกะเหรี่ยง DKBA ส่วนที่ตั้งอาคารมีไม่ต่ำกว่า 100 หลัง กระจุกตัวอยู่รวมกันอย่างโดดเด่น
จากข้อมูลของเหยื่อชาวโมร็อกโก ที่ขอความช่วยเหลือ ระบุว่า ถูกกักขังอยู่ในที่พัก แล้วนำตัวไปทำงานในอาคารอีกแห่ง ที่เป็นบริษัทของคนจีน ซึ่งให้ทำหน้าที่เป็นสแกมเมอร์ สมัครเข้าไปทำงานในแอปหาคู่ แล้วชักจูงเหยื่อ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวสหรัฐอเมริกา ให้มาลงทุนในคริปโต ซึ่งเหยื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง จึงไม่ยินยอมทำ จะถูกทำร้ายร่างกาย เช่น การช็อตไฟฟ้า โดยเหยื่อขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิอิสรภาพ เมื่อเดือนมีนาคม หลังถูกนำตัวเข้ามาเมื่อเดือน ก.พ.67 ผ่านการชักจูงของนายหน้า ว่าจะให้มาทำงานในประเทศไทย จึงหลงเชื่อ และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย ถูกนำพามาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนจะมีคนมารับ พาข้ามแดนไปยังสถานที่ทำงาน ซึ่งเหยื่อไม่ทราบว่าคือประเทศเมียนมา
ขณะนี้เหยื่อชาวโมร็อกโก 18 ราย ได้รับความช่วยเหลือมายัง อ.แม่สอด จ.ตาก เข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM คัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษยืแล้ว และกำลังรอผลจากเจ้าหน้าที่ ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนตามกฏหมาย เพื่อส่งตัวกลับประเทศต้นทาง
The Reporters ตรวจสอบข้อมูลการจับกุมบุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฏหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 8 กรกฏาคม 2567 ของ อ.แม่สอด จ.ตาก พบว่า มีการจับกุม 461 ครั้ง รวม 1,843 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวเมียนมา 1,450 คน ชาวจีน 191 คน ที่เหลือ 202 คน เป็นชาติอื่นๆ ซึ่งพบว่ามีชาวมาเลเซีย 26 คน ยูกันยา 23 คน เอธิโอเปีย 25 คน เวียดนาม 22 คน ลาว 15 คน ออสเตรีเลย 7 คน สหรัฐอเมริกา 6 คน กัมพูชา 7 คน อินเดีย 7 คน ไต้หวัน 3 คน เคนยา 2 คน อินโดนีเซีย 2 คน ปากีสถาน 5 คน คาซัคสถาน 2 คน โมร็อกโก 11 คน และยังมีบังคลาเทศ ตูนีเซีย ไนจีเรีย บลารุส แซมเบีย สหราชอาณาจักร บุรุนดี ญี่ปุ่นกาน่า และเยเมน ประเทศละ 1 คน
ซึ่งการจับกุมบุคคลต่างด้าวเหล่านี้สะท้อนที่มาของชาวต่างชาติ ที่มาจากทั่วโลก และมาถูกจับกุมการเข้าเมืองผิดกฏหมายในพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก กลายเป็นหลักฐานการมีอยู่จริงของชาวต่างชาติ และขบวนการอาชญกรรมข้ามชาติคอลเซ็นเตอร์ ที่ไทยจะปฏิเสธความรับผิดชอบ ในการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ไม่ได้เช่นกัน