CRIME

เปิดปฎิบัติการกวาดล้างมาเฟียน้ำมันเขียว พบ เวียนเทียนใช้รหัสเรือจมกว่า 1,300 ลำ

เปิดปฎิบัติการกวาดล้างมาเฟียน้ำมันเขียว พบ เวียนเทียนใช้รหัสเรือจมกว่า 1,300 ลำ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. บูรณาการกำลังออกปฏิบัติการร่วมกัน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าจับกุมเรือประมง ชื่อ “ช.ศรีพลนภา 5” ขนาด 122 ตันกรอส ขณะทำการประมงบริเวณทะเลอันดามัน พื้นที่รอยต่อจังหวัดพังงาและระนอง โดยให้เข้าเทียบท่าที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา หลังพบมีพฤติกรรมวนเวียนเติมน้ำมันจากเรือสถานีบริการ (Tanker) หลายลำ ในช่วงเวลาต่างๆ กัน โดยใช้รหัสเติมน้ำมันของเรือประมงที่แจ้งทำลายเรือไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนวันที่ 13 กรกฎาคม 2564

พร้อมกันนี้ ได้ขยายผลเข้าตรวจค้นเอกสารหลักฐานต่างๆ จากผู้เกี่ยวข้อง คือ เรือสถานีบริการน้ำมันเขียว บริษัทเข้าของเรือสถานีบริการน้ำมันเขียว รวมถึงสมาคมประมงที่ให้การรับรอง เพื่อดำเนินคดีตามพรบ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 189 “ขนถ่ายน้ำมันในเขตต่อเนื่องโดยไม่มีคุณสมบัติ” มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือปรับเป็นเงินสองเท่าของราคาน้ำมันที่อยู่ในเรือ หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเรือประมงที่ถูกจับกุม บรรทุกน้ำมันประมาณ 30,000 ลิตร และได้เติมน้ำมันเขียวโดยใช้รหัสเติมน้ำมันเขียวจากเรือประมงลำอื่นที่แจ้งกับกรมเจ้าท่าว่าถูกทำลายไปแล้ว จำนวน 6 ครั้ง จะต้องโดนปรับ 4,320,000 บาท

นอกจากนี้ ยังพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดพรบ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 203 ฐานนำน้ำมันที่ยังไม่เสียภาษีสรรพสามิตเข้ามาในราชอาณาจักร มีโทษปรับ 2 – 10 เท่าของภาษี จึงจะต้องเสียค่าปรับอีก 12,600,000 บาท รวมค่าปรับทั้งสองกฎหมาย รวม 16,920,000 บาท ยังไม่รวมการดำเนินคดีจากกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น พรก.การประมง พ.ศ. 2558 , พรบ.เรือไทย พ.ศ. 2481

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จากนี้จะมีการจับกุมดำเนินคดีกับเรือประมงที่กระทำความผิดในลักษณะเดียวกันตามมาอีกจำนวนมากในทุกจังหวัดชายทะเล ซึ่งชุดปฏิบัติการได้กำหนดเป้าหมายไว้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ซึ่งนอกจากจะดำเนินคดีกับกลุ่มเรือประมงที่ไม่มีคุณสมบัติเติมน้ำมันเขียวแล้ว ในส่วนของเรือสถานีบริการ (Tanker) และสมาคมการประมงที่ให้การรับรองคุณสมบัติและออกรหัสเติมน้ำมันเขียว ก็จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นเดียวกัน

“ปฏิบัติการครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อชาวประมงที่ประกอบอาชีพโดยสุจริตแต่อย่างใด ทุกท่านยังสามารถเติมน้ำมันเขียวได้ตามปกติเหมือนเดิมทุกประการ ผมขอย้ำว่าการทำงานของผมคือการแยกน้ำเสียออกจากน้ำดี ให้คนดีมีที่ยืนอย่างภาคภูมิใจในสังคม คนไม่ดีต้องได้รับการลงโทษ ซึ่งผมมั่นใจว่า พี่น้องชาวประมง 95% เป็นคนดี หน้าที่ของผมคือ นำคนไม่ดี 5% ไม่ให้ปะปนกับคนดีและทำให้คนดีได้รับความเสียหาย การบูรณาการการทำงานร่วมกันหลายหน่วยงานครั้งนี้ เป็นการสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีของประเทศในภาวะที่ประชาชนกำลังได้รับความลำบาก แต่มีบางพวก บางกลุ่ม แสวงหาผลประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ภาครัฐดูแลสนับสนุนไป เพื่อประโยชน์ส่วนตัว สร้างความเสียหายจากมูลค่าภาษีที่รัฐควรจะได้ถึงปีละ 700 ล้านบาท” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend