กสทช. – ตร.แถลงผลทลายสถานีโทรคมนาคมเถื่อน ลักลอบส่งสัญญาณข้ามประเทศเอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
กสทช. – ตร. ร่วมแถลงผลการทลายสถานีโทรคมนาคมเถื่อน ลักลอบส่งสัญญาณแรงสูงข้ามประเทศไกลกว่า 40 กม. เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันออนไลน์
ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมาย พล.ต.ท.ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลงานด้านป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี และ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมสถานีโทรคมาคมผิดกฎหมาย ส่งสัญญาณแรงสูงข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านไกลกว่า 40 กม. พบเชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมหารือเร่งออกประกาศ กสทช. เรื่องการอนุญาตและกำกับดูแลสถานีวิทยุคมนาคมบริเวณแนวชายแดน แก้ปัญหาการลักลอบส่งสัญญาณเอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ศ.นพ.สรณ กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ขานรับนโยบายปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันออนไลน์ ที่มีฐานปฎิบัติอยู่ตามแนวชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ณัฐธร ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ พบว่าสถานีโทรคมมาคมเถื่อนที่ถูกจับกุม สามารถแพร่สัญญาณแรงสูงทั้ง สัญญาณโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต ข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านไกลกว่า 40 กิโลเมตร รองรับผู้ใช้งานพร้อมกันเป็นจำนวนหลักพันราย ครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจหลายร้อยตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์แฝงตัวอยู่เป็นจำนวนมาก เรื่องนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไข
ล่าสุด กสทช. ยกร่างประกาศ กสทช. เรื่องการอนุญาตและกำกับดูแลสถานีวิทยุคมนาคมบริเวณแนวชายแดน กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่ชัดเจนสำหรับผู้ประกอบการที่มีความประสงค์จะตั้งเสาสัญญาณใหม่ในพื้นที่ชายแดน กำหนดให้มีระยะร่นจากเส้นเขตแดน และต้องหันทิศทางแพร่สัญญาณเข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้ กำชับให้ สำนักงาน กสทช. ส่วนภูมิภาค ตรวจสอบสถานีโทรคมนาคมและเสาสัญญาณในพื้นที่รับผิดชอบ หากพบการแพร่สัญญาณข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ให้รีบประสานผู้ประกอบการแก้ไข ปรับปรุง หากผู้ประกอบการรายใดไม่ปฏิบัติตามให้ดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า สอท. ร่วมกับ กสทช. เข้าตรวจสอบและจับกุมสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต พบการลักลอบส่งสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จับกุมผู้กระทำผิดพร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย เครื่องวิทยุคมนาคม อุปกรณ์การจ่ายสัญญาณพร้อมกระแสไฟฟ้า และสายนำสัญญาณพร้อมหัวต่อ เป็นจำนวนมาก ถือเป็นความผิดอันประกอบด้วย
1.ความผิดฐาน “มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุ คมนาคมและตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต” ตาม พรบ.วิทยุคมนาคมฯ
2.ความผิดฐาน “ประกอบกิจการโทรคมนาคมซึ่งต้องได้รับ ใบอนุญาตแบบที่หนึ่งโดยไม่ได้อนุญาต” ตาม พรบ.ว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ
ในการนี้ ชุดจับกุมทำการรื้อถอนอุปกรณ์ทั้งหมดนำส่ง สภ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยตนกำชับไปยังตำรวจทุกหน่วยให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวการลักลอบตั้งสถานีโทรคมนาคมผิดกฎหมายในลักษณะกล่าว เพื่อสกัดกั้นไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้าถึงสัญญาณได้โดยง่ายเหมือนในอดีตที่ผ่านมา