CRIME

‘พล.ต.อ.วิสนุ’ ไม่น้อยใจ หลังชูวิทย์ เปรียบเป็นโรงลิเก ขอให้มั่นใจในการทำงาน

จเรตำรวจแห่งชาติ เตรียมเรียก ผบช.น. และชุดพนักงานสอบสวนนครบาล เข้าชี้แจง กรณีชูวิทย์ ยื่นสอบเอี่ยวช่วยเหลือคดี ‘ตู้ห่าว’ ด้าน ‘พล.ต.อ.วิสนุ’ ไม่น้อยใจ หลังชูวิทย์ เปรียบเป็นโรงลิเก ขอให้มั่นใจในการทำงาน ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

วันนี้ (9 ม.ค. 66) เวลา 16:20 น. ที่สำนักงานจเรตำรวจ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และคณะ แถลงข่าว ภายหลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้ายื่นหลักฐาน และให้ปากคำ กรณียื่นเรื่องให้ตรวจสอบการทำงานของชุดพนักงานสอบสวนนครบาล ที่ดูแลคดีของนาย ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด

พล.ต.อ.วิสนุ เปิดเผยว่า วันนี้ขอบคุณนายชูวิทย์ที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สามารถช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ตามที่ผู้บังคับบัญชาการตำรวจแห่งชาติตั้งไว้ 15 วัน พร้อมยืนยันว่าคณะทำงานชุดนี้จะทำอย่างตรงไปตรงมา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ว่าตำรวจทำงานเป็นไปด้วยความถูกต้องหรือไม่ และเตรียมเรียกผู้บังคับบัญชาการตำรวจนครบาล กับคณะพนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีผับจินหลิงมาให้ข้อมูล และสอบข้อเท็จจริงในส่วนที่นายชูวิทย์ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ก่อนจะรายงานผลให้ ผบ.ตร. ทราบต่อไป

นอกจากนี้คณะสอบสวนข้อเท็จจริงของจเรตำรวจ เตรียมจะพิจารณาว่ามีพยานบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง และจำเป็นมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิสนุ ยังขอให้มั่นใจการทำงานของคณะตรวจสอบว่าไม่ใช่โรงลิเก และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนตัวไม่ได้น้อยใจที่นายชูวิทย์แสดงความไม่มั่นใจการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

ส่วนการตรวจสอบกรณีมีการลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่ผับจินหลิง พล.ต.ท.จิรภพ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด วันเวลา และสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งการดูจากคลิปวิดีโอยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เหตุเกิดเมื่อไหร่ และมีการลักลอบเล่นการพนันจริงหรือไม่ ซึ่งในคลิปดังกล่าวสามารถยืนยันบุคคลได้คนเดียวคือนายตู้ห่าว

ทั้งนี้หากพบว่าเป็นการลักลอบเล่นการพนันจริงสามารถดำเนินคดีเพิ่มเติมย้อนหลังกับนายตู้ห่าว และพวกได้ โดยมีอายุความสูงถึง 10 ปี และหากพบว่าตำรวจท้องที่ปล่อยปะละเลย ก็สามารถเอาผิดย้อนหลังได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังมีอำนาจตรวจสอบกรณี 3 นายพล และ นายตำรวจหัวหน้าหน่วยสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ถูกพาดพิงว่าช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงหนังสือเดินทางให้กับผู้ต้องหาคนจีนบางส่วน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจเอกสารซึ่งมีมากถึง 1 แสนแผ่น และมีตำรวจเกี่ยวข้องหลายคน ซึ่วข้อมูลส่วนนี้สอดคล้องกับข้อมูลของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ดังนั้นคณะกรรมการจึงต้องใช้เวลาตรวจสอบอย่างระเอียดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

Related Posts

Send this to a friend