ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุม 3 คดี คนร้ายชาวจีน – อเมริกัน และเกาหลี

วันนี้ (4 ก.ย. 66) ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุม 3 คดี ประกอบด้วย คดีทลายเครือข่ายขนคนจีนข้ามประเทศ คดีรวบหนุ่มใหญ่ชาวอเมริกันอาละวาดพังวิลล่าย่านภูเก็ต และคดีจับกุมตัวหนุ่มเกาหลี overstay ก่อคดีในกรุงเทพฯ ก่อนหนีมากบดานที่เมืองพัทยา

สำหรับคดีแรก ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจับกุมขบวนการเครือข่ายหลอกคนจีนมาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ย้ายฐานปฎิบัติจากประเทศกัมพูชามาอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์แล้วบางส่วนโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ทั้งนี้สามารถจับกลุ่มผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 25 คนในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดมุกดาหาร กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร หนองคาย และพระนครศรีอยุธยา แบ่งเป็นคนไทย 5 คน และคนจีน 20 คน

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาอ้างว่าถูกหลอกให้มาทำงาน แต่เจ้าหน้าที่มั่นใจในพยานหลักฐานว่าผู้ต้องหาร่วมกระทำผิด แนวทางการสืบสวนยังเชื่อว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง และอยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อดำเนินคดี พร้อมเตรียมออกหมายจับคนไทยเพิ่มอีกจำนวน 3 ราย พร้อมทั้งประสานกับทางการจีนเพื่อสืบสวนและสกัดกั้นกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวต่ไป

คดีที่สอง กก.สส.บก.ตม.1 จับกุมนายจอห์น อายุ 41 ปี สัญชาติอเมริกา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงภูเก็ต ในความผิดฐาน “ทำให้เสียทรัพย์” หลังจากก่อเหตุเมาอาละวาด สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และทำลายทรัพย์สินที่พักแห่งหนึ่งที่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนได้รับความเสียหายก่อนจะหลบหนีมาพักอาศัยที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับและสิทธิให้ทราบ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่สาม กก.1 บก.สส.สตม.จับกุมนายซอนแจ อายุ 24 ปี สัญชาติเกาหลี ในความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และฉ้อโกง” หลังก่อเหตุขโมยกำไลจากร้านค้าแบรนด์เนมแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังก่อเหตุหลอกลวงเอาเงินจากผู้เสียหายชาวไทย พบเคยมีประวัติก่อคดีลักทรัพย์มาแล้วที่ประเทศเกาหลี

สืบเนื่องจาก ช่วงค่ำของวันที่ 17 เม.ย. 66 นายซอนแจไปที่ร้านค้าแบรนด์เนมในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านปทุม ลักเอากำไลไปจำนวน 1 วง มูลกว่า 20,000 บาท ออกมา นอกจากคดีดังกล่าวแล้ว นายแจซอนยังหลอกผู้เสียหายคนไทยที่คุยกันผ่านแอปพลิเคชัน KakaoTalk โดยให้ผู้เสียหายส่งรหัสธนาคารเพื่อจะถอนเงินในบัญชีให้ และเมื่อถอนเงินมาแล้วจำนวน 8,000 บาท ก็อ้างกับผู้เสียหายว่าถอนเงินออกมาไม่ได้และหลบหนีไป ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะจับกุมตัวได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านหนองปรือ จ.ชลบุรี

จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่านายซอนแจเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 66 ได้รับการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 15 เม.ย.66 ซึ่งถือว่าการอนุญาตสิ้นสุดแล้ว (Overstay) นอกจากนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ทราบว่านายซอนแจมีประวัติก่อคดีลักทรัพย์ในเกาหลี โดยทางการเกาหลีจะส่งหนังสือเพื่อนำนายซอนแจกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศเกาหลีต่อไป