CRIME

อสส. – ผบ.ตร.แถลงคืบหน้าคดี ‘ตู้ห่าว’ คาดสรุปสำนวนเสร็จทันกรอบเวลาฝากขัง 8 ม.ค.

อสส. – ผบ.ตร.ร่วมแถลงความคืบหน้าคดี ‘ตู้ห่าว’ คาด ตำรวจสรุปสำนวนเสร็จทันกรอบเวลาฝากขัง 8 ม.ค. นี้ ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สั่งสอบ กรณี ชูวิทย์ แฉ บ่อนในผับจินหลิง ขีดเส้น 15 วัน ไขความกระจ่าง

วันนี้ (4 ม.ค. 66) เวลา 11:00 น. ที่สำนักอัยการสูงสุด นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานสอบสวน พร้อมด้วย โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวความคืบหน้าคดีของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ภายหลังจากการร่วมประชุมกับคณะทำงานของอัยการในการกำกับการสอบสวนคดี

นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับผู้ต้องหารวม 25 หมาย และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 17 ราย ต่อมาในวันที่ 31 ธ.ค.65 ได้ขอให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 12 หมาย และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย ได้แก่ MR.FUJI ZING และ นายกฤติธี เหมหงส์ ฐานสมคบกันเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้สมคบกัน โดยการกระทำมีลักษณะเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ประเภท 2 ไว้ในครอบครอง และจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็น การกระทำเพื่อการค้า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งข้อหาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน จํานวน 2 หมาย และความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินจํานวน 10 หมาย และคณะทำงานฯ จะพิจารณาขยายผลการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดไป

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่นายชูวิทย์ ปล่อยคลิปต่างๆ และออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะ และมองว่าตำรวจทำสำนวนการสอบสวนอ่อนนั้น เรื่องนี้เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และความชัดเจนกับประชาชน เมื่อวานนี้ตนจึงได้ออกคำสั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ซึ่งมี พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน และทีมงานจเรระดับผู้บัญชาการ 2 ท่าน โดยมีผู้บังคับบัญชาการ กับรองผู้บังคับบัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และผู้บังคับการกองปราบ ได้เลื่อนไปเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็นเพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อสังคมภายใน 15 วัน ต้องมารายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ตนประสงค์ขอเชิญผู้แทนอัยการประมาณ 2-3 ท่านเพื่อมาเป็นที่ปรึกษาในคณะนี้ด้วย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในคดีนี้ยังมีหลายคนเข้าใจผิดว่า ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน แต่ความจริงคือตั้งแต่ที่ ผบช.น.ทำหนังสือไปให้ทางอัยการสูงสุดพิจารณาเรื่องการกระทำความผิดของเครือข่ายนี้น่าจะเข้าข่ายเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เมื่อทางอัยการพิจารณาแล้วจึงได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 คณะ เพื่อมากำกับการทำงาน โดยคณะแรก เป็นคณะทำงานเพื่อกำกับดูแลการทำงานโดยมีรองอัยการสูงสุด เป็นประธานและให้ ผบ.ตร. กับ อัยการสูงสุดเป็นที่ปรึกษา ส่วนอีกคณะหนึ่ง คือ เป็นคณะพนักงานสอบสวนที่ร่วมกันระหว่างอัยการกับตำรวจ ซึ่งให้ ผบ.ตร.เป็นผู้รับผิดชอบ ในการลงนามส่งสำนวนการสืบสวน

ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี ผบ.ตร. กล่าวว่า ตอนนี้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 3 ราย ได้แก่ พนักงานสอบสวนสน.ยานนาวา 2 ราย พนักงานกำกับจราจรสน.ลาดพร้าว 1 ราย และล่าสุดแจ้งข้อหารองผู้บังคับการนครบาล 6 อีก 1 ราย ซึ่งดำเนินคดีอาญาไปหมดแล้ว และได้ส่งสำนวนไปที่ ป.ป.ช. แล้ว 3 ราย ส่วนอีก 1 รายอยู่ระหว่างดำเนินการ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ย้ำว่าตอนนี้เน้นเรื่องในส่วนของคดีหลีกให้มีความกระจ่างชัดก่อน เพราะตอนนี้มีหลายกระแส หลายมุมมอง อยากให้สื่อมวลชนเข้าใจการทำงาน แต่ตำรวจยืนยันว่าทำเต็มที่ ณ ขณะนี้มีการสอบพยานไปก็ว่า 400 ปากแล้วและยังคงจะสอบเพิ่มอีก รวมทั้ง ขอให้มั่นใจว่าตนได้มาเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนร่วมกับกองบัญชาการอีก 4 กองบัญชาการ ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยทางตำรวจเราทำงานเต็มที่ ถ้าหากมีใครมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็สามารถส่งมาได้

ด้านนายกุลธนิต เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ได้มีการรวมสำนวนเป็นสำนวนเดียวจาก 5 สำนวน เพราะว่าเป็นพฤติการณ์ในการร่วมกันกระทำความผิด ส่วนการสอบสวนตอนนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาการฝากขังผู้ต้องหา ซึ่งจะมีการครบกำหนดฝากขังคนแรกเร็วที่สุด คือ ครบฝากขังครั้งที่6 ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ และในการฝากขังครั้งที่7 คือภายในวันที่ 20 ม.ค. ส่วนสำนวนการสอบสวนจะนำเสนอให้กับอัยการสูงสุดก่อนครบกำหนดระยะเวลาฝากขัง เพื่อให้ระหว่างเวลาที่มีเหลือ ท่านอัยการสูงสุดจะได้พิจารณาสำนวน

นายกุลธนิต อธิบายอีกว่า สำหรับสำนวนการสอบสวนเมื่อทางพนักงานอัยการได้รับมอบหมายให้เข้าไปร่วมสอบสวนในคดีในตู้ห่าวนั้น ขั้นตอนแรกที่เราดำเนินการก็คือการนำสำนวนของพนักงานสอบสวนที่รวบรวมมาทั้งหมดมาตรวจสอบดูก่อนว่าสภาพสำนวนเป็นอย่างไรมีการสอบสวนอย่างไรบ้างแล้ว และจากการตรวจสอบสำนวนโดยละเอียดของพนักงานอัยการ พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานในแนวทางที่ถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์ดีทุกอย่างและการสอบสวนของตำรวจยังมุ่งเน้นสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องหา ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การกระทำความผิดฐานใดฐานหนึ่ง แต่มุ่งเน้นสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งหมดโดยสืบสวนหาว่ามีกลุ่มขบวนการใดบ้างร่วมอยู่ด้วย ถือว่าเป็นการทำสำนวนอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อพนักงานอัยการได้เข้าไปดูก็ได้มีการเพิ่มเติมบางส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ให้ครบถ้วนจนสามารถออกหมายจับเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาได้ ถือว่าเป็นการอาศัยสำนวนหลักจากทางพนักงานสอบสวนที่ได้รวบรวมมา ดังนั้น ที่บอกว่าสำนวนของตำรวจมีความไม่ครบถ้วนนั้น จริงๆครบถ้วนสมบูรณ์พอสมควร พนักงานอัยการไม่ต้องทำอะไรมากมายเพียงแต่มาหาจุดเชื่อมโยงในพยานหลักฐานเท่านั้นและพิจารณาออกหมายจับตามที่ปรากฏ

นายกุลธนิต กล่าวอีกว่า ประเด็นที่มีการพูดกันว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหาล่าช้านั้น ตนไม่ถือว่าเป็นช่องโหว่ในการต่อสู้คดีของผู้ต้องหาแต่อย่างใด เพราะการแจ้งข้อหาเป็นเพียงกระบวนการหนึ่งในการสอบสวนเท่านั้นส่วนในเนื้อหาสำนวนที่ตำรวจได้รวบรวมมา ได้รวบรวมในเรื่องของการกระทำของกลุ่มผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ตามพยานหลักฐานที่รวบรวมมา นายตู้ห่าวยังถือเป็นตัวการสำคัญ ส่วนรายละเอียดเนื้อหาเชิงลึกเป็นเรื่องภายในสำนวนคดี ตนไม่สามารถนำมาบอกกล่าวได้

อีกทั้ง พยานหลักฐานตั้งแต่วันเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้มีการตรวจเก็บหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว มีเพียงแต่รถยนต์จำนวนหนึ่งซึ่งตอนนั้นยังไม่สามารถเปิดได้ แต่ก็ได้มีการเก็บหลักฐานภายนอกไว้หมด จนกระทั่งวันที่มีการเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง และพนักงานอัยการก็ได้เข้าไปร่วมตรวจด้วย มันเป็นเพียงการไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเท่านั้น และในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้มีการเปิดตัวรถยนต์และเก็บหลักฐานภายในได้ทั้งหมด ส่วนที่ในข้อคำถามว่าเหตุใดการไปเก็บ ไม่ไปดำเนินการฝ่ายเดียวนั้น เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประสานงานกับทาง ป.ป.ส. เพราะว่าในตัวทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุทาง ป.ป.ส. ได้มีการยึดอายัดไว้เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน ดังนั้น ในการที่เราจะเข้าไปมันต้องมีการประสานกัน เพื่อให้ทาง ป.ป.ส. ได้เข้าไปด้วยเพื่อป้องกันข้อครหาที่ตามมาในภายหลัง ส่วนหลักฐานที่เก็บเพิ่มเติมจะไม่มีผลกระทบในทางคดี

นายกุลธนิต ระบุอีกว่า แม้ว่าการครบกำหนดฝากขังครั้งที่หกซึ่งตรงกับวันที่ 8 ม.ค.นี้ ก็ตามแต่เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ต้องหาหรือมีการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติม ก็อาจจะมีขั้นตอนเพิ่มเติมขึ้นมา แต่เข้าใจว่าหากไม่สามารถดำเนินการได้ทันภายในวันดังกล่าว ก็อาจล่วงเลยมาไม่กี่วันหลังจากนั้นก็จะมีความเรียบร้อยดี โดยเราจะแจ้งข้อกล่าวหาให้แล้วเสร็จเพื่อเข้าสู่สำนวนให้ทันกรอบระยะเวลาการฝากขัง

Related Posts

Send this to a friend