CRIME

เปิดยุทธการ “เด็ดปีกเฟซอวตาร” รวบหนุ่มคุกคาม โบว์-แวนด้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดยุทธการ “เด็ดปีกเฟซอวตาร” ลวงเหยื่อส่งรูปโป๊เปลือย ก่อนแบล็กเมล์ กรรโชกทรัพย์ พร้อมรวบหนุ่มปลอมเฟซฯ คุกคามดารา

วันนี้ (3 พ.ย.64) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม. แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุหลอกลวงเหยื่อในโลกออนไลน์ ล่อลวงให้แลกเปลี่ยนภาพอนารจาร ก่อนจะขู่กรรโชกทรัพย์

คดีนี้สืบเนื่องมาจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองเด็กและเยาวชนหลายราย ผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก “กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์” ว่ามีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวสวยหน้าตาดี ติดต่อพูดคุยกับเหยื่อที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน เมื่อเหยื่อเริ่มคุ้นเคยก็จะชักชวนพูดคุยเรื่องลามกอนาจาร ชักชวนเหยื่อถ่ายภาพโป๊เปลือยโชว์ของสงวน ก่อนที่จะบันทึกภาพ แล้วนำมาข่มขู่กรรโชกทรัพย์เหยื่อให้จ่ายเงิน มิเช่นนั้นจะเผยแพร่ภาพของเหยื่อในโซเชียลมิเดียทำให้เกิดความเสียหายและอับอาย

พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายสมัครใช้เฟซบุ๊กปลอม (เฟซอวตาร) จำนวน 4 บัญชี ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นภาพของหญิงสาวหน้าตาดี โดยใช้ชื่อบัญชีว่า Punnapat , Picrada , ชลธิชา และ แพรทอง จากนั้นจะใช้วิธีเลือกเหยื่อ หากเหยื่อเป็นเด็กและเยาวชนจะใช้แอปพลิเคชัน “OMI” แพลตฟอร์มหาเพื่อนของกลุ่มวัยรุ่น ส่วนเหยื่อที่เป็นผู้ใหญ่ จะเลือกหาเหยื่อผ่านเว็บไซต์ www.swinging.com ทำทีทักทายทำความรู้จักกับ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อเข้าใจว่าเป็นหญิงสาวจะมีการพูดคุย แลกเปลี่ยนส่งภาพลามกอนาจารระหว่างกัน จากนั้นคนร้ายก็จะบันทึกภาพนั้นไว้แล้วนำมาข่มขู่ให้เหยื่อโอนเงิน

โดยผู้ก่อเหตุคือ นายธนกฤต หรือโอ๊ต เมื่อตรวจสอบจากสื่อสังคมออนไลน์พบว่า เมื่อปี 2559 ได้ปรากฏมีผู้โพสต์ข้อความ กล่าวถึง นายธนกฤต ว่าเป็นบุคคลมีพฤติการณ์ข่มขู่และกรรโชกทรัพย์เหยื่อในลักษณะเดียวกัน และยังเคยมีประวัติต้องโทษในคดีอาญา ข้อหากรรโชกทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ รวม 3 คดี ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษในคดีกรรโชกทรัพย์ เมื่อ 27 พ.ย. 2563 จนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก

โดยวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 สามารถจับกุมตัวนายธนกฤตหรือโอ๊ต ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนอีกคดีเป็นการสืบสวนจับกุมของกรมบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ผู้ต้องหาคือ นายภาคิน จุนสำราญ อายุ 36 ปี มีความผิดฐาน นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จโดยทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และกระทำการรังแกข่มเหงคุกคามหรือทำให้ได้รับความอับอายเดือดร้อนรำคาญ ตามความผิดของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

โดยก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความกับตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ว่า ถูกบุคคลใช้สื่อโซเชียลมิเดียพยายามส่งข้อความ และรูปภาพ ในลักษณะคุกคามทางเพศ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนและอับอายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักแสดงสาวหลายคน หนึ่งในนั้นคือ โบว์ แวนดา สหวงษ์ ภรรยาของปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ที่ถูกคุกคามอยู่นานหลายปี

ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจึงได้ตรวจสอบข้อมูลทางเทคนิคจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานไปขอหมายค้นจากศาลแขวงนนทบุรี ติดตามตัวคนร้ายได้ที่บ้านพัก จากการตรวจค้นภายในห้องพักพบ ผู้ต้องหาอยู่ภายในห้องดังกล่าวและของกลางที่ใช้กระทำความผิดเป็นโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่องและซิมการ์ดจำนวนมาก จากการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ตรงกับบุคคลที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้หลายคนก่อนหน้านี้ จึงแจ้งข้อหาดังกล่าว

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่า ประกอบอาชีพเป็นวิศวกรให้การรับสารภาพว่า จะสร้างอวตารสื่อโซเชียลมิเดียปลอมขึ้นมา โดยจะเลือกภาพบุคคลที่ดูดีมีฐานะหลังจากนั้นจะส่งข้อความคุกคามทางเพศไปหาผู้เสียหาย อ้างว่าทำไปเพื่อระบายความเครียดและยิ่งถูกต่อว่ากลับมาจะยิ่งรู้สึกมีความสุขหรือฟิน

ด้านโบว์ แวนด้า เปิดเผยว่า ถูกผู้ต้องหาคุกคามมาหลายปีแล้ว เริ่มจากส่งข้อความมาขอซื้อเส้นขน และชุดชั้นใน ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยช่วงแรกได้ต่อว่าผู้ต้องหาไป แต่ผู้ต้องหากลับโพสต์และส่งข้อความผ่านทางสื่อโซเชียลของแฟนคลับ และรายการที่ตนเองไปออก โดยหลังจากตนเองเข้าแจ้งความ คนร้ายยังท้าทายว่า ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ กระทั่งได้รับข่าวดีว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จึงรู้สึกสบายใจขึ้น

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat