CRIME

รอง ผบ.ตร. แถลงความคืบหน้าคดีรถหรูอดีตผู้กำกับโจ้ยืนยันจะดำเนินคดี

รอง ผบ.ตร. แถลงความคืบหน้าคดีรถหรูอดีตผู้กำกับ ธิติสรรค์ ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด เตรียมนำส่งอัยการภายในเดือน พ.ย.

วันนี้ (4 ต.ค.) ที่กองปราบปราม พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) แถลงความคืบหน้าคดีอดีตผู้กำกับ ธิติสรรค์ อุทธนผล ว่า มีหลักฐานมากพอที่จะดำเนินคดี และจะนำส่งอัยการภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนประเด็นการตรวจสอบทรัพย์สินรวมถึงรถหรู พบว่า อดีตผู้กำกับ ธิติสรรค์ ได้ดำเนินคดีรถหลบหนีภาษีที่เข้ามาในประเทศไทยจำนวน 410 คัน อีกทั้งยังพบข้อมูลสำคัญว่า รถส่วนใหญ่เป็นรถที่ถูกจัดจำหน่ายในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ โดยรถจำนวน 270 คัน มีการแจ้งหายไว้ในต่างประเทศ ซึ่งแบ่งเป็น 2 พฤติกรรม คือ มีการแจ้งหายก่อนมีการตรวจยึด 101 คัน และแจ้งหายหลังการตรวจยึด 169 คัน ส่วนที่เหลือไม่พบข้อมูลนำเข้าผ่านประเทศไทย อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

พล.ต.อ. สุชาติ เปิดเผยว่า อดีตผู้กำกับ ธิติสรรค์ มีความเกี่ยวข้องกับรถทั้ง 410 คัน แต่ในทั้งหมดอาจมีชื่อตำรวจ รวมถึงอดีตตำรวจร่วมอยู่ด้วย ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต และจะมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอนในภายหลัง อีกทั้งได้ชี้เเจงว่า อดีตผู้กำกับ ธิติสรรค์ ได้มีการนำรถที่ยึดมาส่งกรมศุลกากรเพื่อเอาเงินรางวัล ไม่ได้ยึดมาเพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินส่วนตัว และจากการตรวจสอบหลักฐานพบว่า กรมศุลกากรได้ส่งข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่ามีตัวแทนของอดีตผู้กำกับ ธิติสรรค์ เข้าไปประมูลรถในภายหลัง ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ในขณะนี้

หลังจากนี้จะมีการมอบหมายให้ พล.ต.ท. สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ติดตามประเด็นนี้ต่อไป โดย พล.ต.อ. สุชาติ ยืนยันว่า ได้มีการทำหนังสือส่งไปยังบริษัทผู้ผลิตรถในต่างประเทศแล้ว เพื่อติดตามกรณีรถที่ถูกแจ้งหายไว้ทั้ง 270 คัน ตั้งแต่ปี 2554 และได้ชี้เเจงเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ไม่ได้ส่งหนังสือไปในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่ได้มีการทำหนังสือบันทึกข้อตกลงระหว่างองค์กร (MOU หรือ Memorandum of Understanding) จึงไม่ได้มีการจัดส่งรถคืน

สำหรับประเด็นเส้นทางการเงินของอดีตผู้กำกับ ธิติสรรค์ ทาง พล.ต.อ. สุชาติ ให้ข้อมูลว่า ไม่มีการเคลื่อนย้ายเงินไปไว้ในบัญชีอื่น และกล่าวเพิ่มเติมว่า คดีอดีตผู้กำกับ ธิติสรรค์ ในครั้งนี้ คนปล่อยคลิปถือเป็นผู้ส่งมอบหลักฐาน ส่วนคนในคลิปถือเป็นผู้กระทำความผิด พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า คดีได้คืบหน้าไปถึง 80-90% แล้ว ขอเวลาอีกไม่นานเพื่อคลี่คลายคดี

เรื่อง : มนสิรา กาหลง

ภาพ : พุฒิพงศ์ ธัญญพันธุ์

Related Posts

Send this to a friend