พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พอใจ ยอดอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย ต่ำกว่าปีที่แล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พอใจ ยอดอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปีที่แล้ว อุบัติเหตุ “เมาแล้วขับ” ร่วงไปอยู่อันดับ 3 ชี้ รถโดยสารต่างๆ ไม่มีอุบัติเหตุพลิกคว่ำเทกระจาด เพราะเกิดจากมาตรการเข้มงวด ตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับ เผย หลังปีใหม่ เตรียมสั่งทุกจังหวัดเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายยันปีหน้า
วันนี้ (3 ม.ค. 67) เวลา 15:00 น. ที่กองบินตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อสำรวจเส้นทางการจราจร และลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ประจำสถานีขนส่ง ของจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดนครราชสีมา ในช่วง 7 วันอันตราย ของเทศกาลปีใหม่ปี 2567 โดยระบุว่า วันนี้เป็นวันรองวันสุดท้ายของ 7 วันอันตราย โดยยอดการบาดเจ็บ และการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าปีที่แล้วมาก ซึ่งต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทั้งหมด และกำลังท้องถิ่น โดยในวันนี้มีบูรณาการกันอย่างเหนียวแน่น
ซึ่งในปีนี้จะเห็นได้ว่า รถโดยสารสาธารณะ เช่น รถบัส มินิบัส รถตู้ ไม่มีอุบัติเหตุที่เกิดจากรถคว่ำ ในลักษณะเทกระจาดเลย เพราะเกิดจากการเราบังคับใช้กฎหมาย และการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ของผู้ขับรถโดยสาร และมีด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ในพื้นที่ต่างๆ กว่า 200 จุด และในปีนี้ตนเองให้มีการตรวจทั้งหมด โดยจะเห็นว่าในทุกจังหวัดผู้ขับรถโดยสารจะไม่มีแอลกอฮอล์เลย รวมถึงในรถโดยสารจะต้องมีผู้ขับจำนวน 2 คน สลับกันพักทุก 4-5 ชั่วโมง แต่อุบัติเหตุที่เกิดการเสียชีวิตก็เกิดจากถนนเส้นทางรองในกทม. เยอะ เพราะเป็นทางตรง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เดิมทีอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเมาแล้วขับรถ แต่ในปีนี้ สถิติดังกล่าวตกลงไปอยู่อันดับ 3 ส่วนอันดับ 1 คือ การไม่สวมใส่หมวกกันน็อค และอันดับ 2 คือ การขับรถเร็ว ฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะตั้งด่านให้มาก เพื่อลดทอนความเร็วของผู้ขับขี่ และเส้นทางสายรองจะต้องมีด่านตั้ง
หลังจากปีใหม่นี้ ตนเองจะเอาข้อมูลเหล่านี้ มาตรวจเข้มข้นในเรื่องของหมวกกันน็อค การขับรถย้อนศร ต้องตรวจเข้มทุกจังหวัด ต้องเริ่มตัังแต่เดือนนี้จนถึงปีหน้า จะได้ไม่ต้องมาเข้มงวดแค่ช่วง 7 วันอันตราย หลังจากเดือนนี้ไปแล้วจะเริ่มกำหนดกรอบให้ทุกจังหวัดต้องเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย และกลับมาดูสถิติว่า เมื่อเราเข้มงวด ปรับจริงจ่ายจริง เพื่อให้ประชาชนเกรงกลัว และปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งวัดจากเดือนมกราคม ว่าเกิดอุบัติเหตุเท่าไหร่ ดีขึ้นหรือไม่ โดยจะเอาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตราย มาเป็นข้อมูลหลักเพื่อลดอุบัติเหตุไปจนถึงเทศกาลสงกรานต์
ส่วนกรณีในกรณีที่ในช่วงปีใหม่ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6) เกิดการจราจรติดขัดเพราะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าตกใจที่ถนน M 6 ติด แต่ถนนข้างล่างโล่ง เพราะคนแห่ขึ้นไปวิ่งข้างบนหมด โดยหลังจากนี้จะต้องมีป้ายบอกปริมาณผู้ใช้บริการ และป้ายแนะนำให้ใช้เส้นด้านล่าง เพื่อให้ประชาชนทราบ และช่วยแก้ปัญหาการจราจรในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของกล้องวงจรปิดในบริเวณถนนสายรอง ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการนัดรวมตัวพูดคุยกับนายก อบจ. ของทุกจังหวัดครั้งละ 10 จังหวัด โดยมีแผนให้ผู้การจังหวัดไปขอนายก อบจ.ติดตั้งกล้องวงจรปิดในถนนสายรอง ภายในจังหวัด ซึ่งเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเราจะไม่ยุ่งเรื่องการจัดซื้อ แต่จะขอให้ติดตั้งกล้องในพื้นที่ตามที่บอก เพราะเราเป็นผู้ใช้ทราบดีถึงปัญหา การจะลดอุบัติการตายได้จะต้องมีกล้องวงจรปิดเข้ามาช่วย และในวันนี้กำลังคนไม่มีทางพอ ซึ่งจะต้องเอากำลังท้องถิ่นเข้ามาร่วม พร้อมกล่าวยกตัวอย่างว่า ในบางพื้นที่มี 10 ตำบล ผู้ใหญ่บ้านทุกคนต้องมีเบอร์มือถือผู้กำกับประจำท้องถิ่นทุกคน เพราะทุกวันนี้เวลาเกิดเหตุ ผู้ใหญ่บ้านไม่รู้จะโทรหาใคร ความห่างจึงเยอะขึ้น ซึ่งตนจะลงไปแก้ไขในเรื่องนี้ และเราต้องทำทุกวัน ทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง
