DSI ชุดหมูเถื่อน เปิดห้องประชุมนัดแรก ถกแนวทางสอบสวน รับ 2 คดีใหม่ เคลียร์ปัญหาเนื้อเถื่อนทุกชนิด
จากกรณีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินคดีพิเศษที่ 59/2566 ขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบ หรือ คดีหมูเถื่อน 161 ตู้ ซึ่งสามารถจับกุม และเเจ้งความเอาผิดผู้ต้องหาได้แล้วหลายราย ได้แก่ กลุ่มบริษัทชิปปิ้งเอกชน 12 ราย กลุ่มนายทุน 2 ราย กลุ่มบริษัทห้องเย็น 2 แห่ง กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐและข้าราชการฝ่ายการเมือง 1 สำนวน และได้ขยายผลสืบสวนสอบสวนเพื่อรับขบวนการองค์กรอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและอาชีพของเกษตรกร เป็นอีกหนึ่งคดีพิเศษ หลังสืบขยายผลผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในหลายวงการเข้ามาเกี่ยวข้อง และพัวพันกับการลักลอบนำเข้าตู้คอนเทรนเนอร์ ทางท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งบรรจุเนื้อสัตว์เถื่อนต่างๆ ในช่วงปี 2564-2566 เงินหมุนเวียนกว่า 7,000 ล้านบาท พร้อมขยายผลพบอีกว่า ยังมีการนำเข้าเนื้อสัตว์อีกหลายประเภทที่ถูกลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ และสวมสิทธิส่งจำหน่ายประเทศจีนจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ (3 ม.ค. 67) เวลา 10:00 น. ที่ห้องประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ คณะพนักงานสอบสวนคดีลักลอบนำเข้าเนื้อสุกร เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบหรือคดีหมูเถื่อน ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน และคณะ ร่วมประชุมวางแนวทางการสอบสวน ภายหลัง DSI ได้มีคำสั่งที่ 2010/2566 รับคดีนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนเป็นคดีพิเศษใหม่เพิ่มอีก 2 คดี
สำหรับทั้ง 2 คดีพิเศษใหม่ ประกอบไปด้วย
1.คดีพิเศษที่ 126/2566 เป็นคดีเกี่ยวข้องกับการนำเข้าชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งจำนวน 2,388 ตู้ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฏหมาย และได้นำออกไปจำหน่ายตามท้องตลาดแล้ว
2.คดีพิเศษที่ 127/2566 เป็นคดีเกี่ยวข้องกับการนำเข้าชิ้นส่วนเนื้อสัตว์ประเภทต่าง ๆ กว่า 10,000 ตู้ ประกอบไปด้วย เนื้อหมู ตีนไก่ และเนื้อวัว เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยคดีนี้พบว่า ถูกลักลอบนำเข้าตั้งแต่ปี 2564 – 2566 มีเงินทุนหมุนเวียนมากกว่า 7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ มีรายงานว่า ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ 2,388 ตู้ อาจมีกลุ่มบุคคลที่เป็นผู้ต้องหาของดีเอสไออยู่แล้วจากการถูกจับกุมใน 161 ตู้ ส่วนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกว่า 10,000 ตู้นั้น จะเป็นบุคคลกลุ่มใหม่ที่ไม่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน ซึ่งผลจากการสืบสวนสอบสวน พบว่ามีขบวนการองค์กรอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและอาชีพของเกษตรกร อยู่เบื้องหลังในคดีนี้ โดยมีการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนเนื้อไก่ ประเภทอกไก่และตีนไก่จากต่างประเทศ และสวมสิทธิส่งจำหน่ายไปยังประเทศจีนจำนวนมาก พร้อมกับเนื้อวัวเถื่อน ด้วยวิธีการสำแดงเท็จเป็นสินค้าประมง อาทิ เนื้อปลาแช่แข็ง กุ้งแช่แข็ง หรือพลาสติกพอลิเมอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ซึ่งขบวนการนี้อาจจะมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง กลุ่มนายทุน และนักธุรกิจชาวจีน