CRIME

ประชุมด่วนคลี่คลายคดีหลอกลงทุนธุรกิจฟาร์มเห็ดหลังพบผู้เสียหายกว่า 1,900 ราย

วันนี้ (1 ส.ค. 65) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เรียกประชุมด่วน คลี่คลายคดีหลอกลงทุนธุรกิจเกษตรฟาร์มเห็ด ในจังหวัดสกลนคร หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 1,867 ราย ความเสียหายรวมกว่า 1,290 ล้าน

สำหรับ คดีบริษัทธุรกิจฟาร์มเห็ดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสกลนคร หลอกชักชวนคนนำเงินมาลงทุนทำฟาร์ม ในรูปแบบฝากเลี้ยงเห็ด คล้ายกับผู้ลงทุนเป็นเจ้าของโรงเพราะเห็ด โดยฟาร์มจะเป็นผู้ดูแลให้ ผู้ลงทุนแค่ออกเงิน รอรับผลตอบแทน 18-30% ต่อเดือน โดยนำดาราที่มีชื่อเสียงมาโฆษณา สร้างความเชื่อถือ ช่วงแรกมีการปันผลจริง แต่ต่อมาผิดนัดสัญญา เมื่อสอบถาม ทางบริษัทอ้างว่าธนาคารอายัดบัญชี จึงไม่สามารถจ่ายให้กับผู้ลงทุนได้ ล่าสุด มีผู้เสียหายจำนวนมากทยอยเข้าแจ้งความ ที่ สภ.เมืองสกลนคร , สอท., บก.ปอศ. , และตำรวจพื้นที่ทั่วประเทศ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้อำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหาย เนื่องจากมีจำนวนมากและกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงเรียกประชุมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บช.สอท., บช.ก. และ บช.น., ภ.1-9 เร่งรัดการสืบสวน ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และกำหนดแนวทางในการสอบสวน มอบหมายให้ บก.สอท.1 เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบคดีทั้งหมด

ทั้งนี้ หากผู้เสียหายไม่สะดวกเดินทางมาให้การที่ บก.สอท.1 ก็จะอำนวยความสะดวกโดยการส่งประเด็นการสอบสวนไปให้ตำรวจพื้นที่ที่ผู้เสียหายสะดวก ช่วยสอบปากคำแทน สำหรับผู้เสียหายที่ยังไม่ได้มาแจ้งความ สามารถเดินทางไปแจ้งความที่ บก.สอท.1 (ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ)หรือ ตำรวจท้องที่ใดก็ได้ที่ท่านสะดวก หรือ ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ thaipoliceonline.com ซึ่งจะมีการรวมเรื่องมาที่ บก.สอท.1 เช่นกัน

ส่วนการติดตามเงินคืนให้ผู้เสียหาย รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งอายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว โดยตำรวจมีการทำงานร่วมกันกับ ปปง. อย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบและติดตามยึดและอายัดทรัพย์สินคืนกลับมาให้กับผู้เสียหายโดยเร็ว และหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้กับผู้เสียหายทราบโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ จากการสืบสวน ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้เดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 64 จึงได้เร่งออกหมายจับ และประสานตำรวจ interpol นำตัวกลับมาดำเนินคดี ส่วนพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหา เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน , กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี

Related Posts

Send this to a friend