บช.น.เตรียมลงพื้นที่เก็บตัวอย่างกัญชาที่จำหน่ายในแหล่งท่องเที่ยวส่งตรวจ
ตำรวจนครบาลเตรียมลงพื้นที่เก็บตัวอย่างกัญชาที่จำหน่ายในแหล่งท่องเที่ยว และส่งตรวจวิเคราะห์หากพบสารเสพติดอื่นผสมจะถือว่าผิดกฎหมาย
ภายหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีคนสูบกัญชาริมถนนย่านสีลม ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะและขัดต่อประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมนุไพรควบคุม พ.ศ.2565
วันนี้ (1 ก.ค. 65) พลตำรวจตรีนิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมประชุมกับฝ่ายสืบสวน และสอบสวน สน.บางรัก เพื่อเตรียมเชิญตัวบุคคลในคลิปมาสอบสวนถึงการกระทำดังกล่าว โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่าเป็นใคร และหากพบว่ามีเจตนาในการกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนั้นยังได้ทำความเข้าใจกับตำรวจในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวให้ดำเนินการตามประกาศฉบับนี้ และหากพบว่ามีการจำหน่ายฝ่าฝืนประกาศ 3 ข้อ คือ ห้ามสูบในที่สาธารณะ ห้ามสตรีมีครรภ์หรือที่ให้นมบุตรสูบ และห้ามจำหน่ายกับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี และสตรีที่ให้นมบุตร
หากพนักงานสอบสวนพบเหตุซึ่งหน้าดังกล่าวสามารถจับกุมดำเนินคดีได้ทันที แต่หากพบการร้องเรียนในภายหลังก็ต้องสืบสวนหาตัวผู้ฝ่าฝืน หรือผู้ที่จำหน่ายมาให้ได้
พลตำรวจตรีนิธิธร ยังระบุว่า หลังจากนี้จะให้ตำรวจไปซื้อกัญชาตามแผง หรือร้านที่วางขาย และใส่ถุงซิปพร้อมกับจดบันทึกชื่อนามสกุล และสถานที่จำหน่าย ราคาที่จำหน่าย เพื่อส่งตรวจสอบกับกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก หาสารเสพติดอื่นว่ามีเจือปนนอกเหนือจากกัญชาหรือไม่ เพื่อป้องกันการแอบแฝงจำหน่ายยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหากผลการตรวจพบว่ามีสารเสพติด ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยการตรวจแต่ละครั้งจะต้องมีค่าใช้จ่ายครั้งละประมาณ 3,000 บาท ต้องนำไปหารือว่าจะใช้งบประมาณส่วนใดดำเนินการ
แต่ขณะนี้ยังไม่มีเครื่องมือที่จะสามารถตรวจหาสารเสพติดชนิดอื่นได้ ณ จุดที่จำหน่าย และในสัปดาห์หน้าตำรวจนครบาลจะไปร่วมหารือกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในการตรวจสารเสพติดอื่นในกัญชา แต่เบื้องต้นจะต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเท่านั้น ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
ส่วนหากส่งตัวอย่างไปตรวจแล้วพบว่ามีสารเสพติดอื่น แล้วพบว่าแผงขายนั้นเลิกขายหรือเปลี่ยนสถานที่ไปแล้ว ตำรวจก็จะต้องออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนตามขั้นตอน เนื่องจากมีการบันทึกชื่อ นามสกุล ของผู้จำหน่ายไว้แล้ว
สำหรับโทษของผู้ที่จำหน่ายกัญชาให้กับอายุต่ำกว่า 20 ปี มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท และหากจับผู้เสพได้ก็จะต้องตามหาผู้ที่จำหน่ายให้กับผู้เสพที่อายุต่ำกว่า 20 ปีด้วย