CRIME

ตร.เตรียมนำเพื่อนแตงโมจำลองเหตุการณ์ให้ครบทีละคน แจงแผล ไม่เข้าข่ายร่องรอยจากการต่อสู้

ตร.เตรียมนำเพื่อนแตงโมจำลองเหตุการณ์ให้ครบทีละคน แจงแผล ‘จ๊อบ’ มีอายุ 5-7 วัน ขนาดใหญ่กว่ารอยเล็บ ไม่เข้าข่ายร่องรอยจากการต่อสู้ เหตุไม่ตรวจร่างกายเพื่อนวันแรกเพราะให้การในฐานะพยาน

วันนี้ (1 มี.ค. 65) เวลา 13.50 น. พลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา ภัทรวีระพงษ์ ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ท ว่า เมื่อวานนี้ ได้ทำการจำลองเหตุการณ์ในพื้นที่จริงในเวลาเดียวกันกับตอนที่เกิดเหตุ โดยได้นำหนึ่งในพยาน คือ แซน วิศาพัช ไปร่วมชี้จุดที่เกิดเหตุประกอบคำให้การในฐานะพยานด้วย เพื่อดูว่าสอดคล้องกับคำให้การหรือไม่ ซึ่งรายละเอียดได้บันทึกไว้ในสำนวนแล้ว ยังเปิดเผยไม่ได้ แต่หลังจากนี้ จะต้องนำพยานอีก 4 คนที่เหลือ ไปร่วมจำลองเหตุการณ์ทีละคนให้ครบ เพื่อวิเคราะห์ดูว่าจะสอดคล้องกันทั้ง 5 คนหรือไม่

นอกจากนี้ เมื่อวานยังได้นำตัวพยาน 4 คน ซึ่งเป็นคนเห็นเหตุการณ์ขณะตกปลา ซึ่งยืนยันว่าเห็นเรือตอนที่เกิดเหตุ ขับมาวนตรงจุดที่พยานนั่งตกปลาอยู่ โดยเป็นการขับมาแล้วลดความเร็วลง ก่อนจะหักวกกลับกะทันหัน สอดคล้องกับผลที่ได้จากเครื่องจีพีเอสในเรือ ซึ่งตอนนี้ได้ข้อมูลเส้นทางและความเร็วในการเดินทางทั้งหมดแล้ว พบว่าสอดคล้องกับที่พยานให้การ โดยจุดเกิดเหตุที่พบว่ามีการลดความเร็วลงและหักวกเรือกลับนั้น อยู่เลยจากสะพานพระราม 7 ไปทางนนทบุรี 800-900 เมตร สันนิษฐานว่าเป็นจังหวะที่แตงโมพลัดตกจากเรือ

ส่วนการตรวจสอบเรื่องซีดีที่คุณแม่ของแตงโมได้รับ ตอนนี้ทราบแล้วว่าได้รับจากเพื่อนบ้าน ที่เอามาให้เนื่องจากต้องการให้กำลังใจ โดยด้านในซีดีมีเพลง 4 เพลง ส่วนหลักฐานเรื่องที่เกิดขึ้นในเรือ คุณแม่ไม่ได้นำเป็นแชทการพูดคุยระหว่างบุคคลใดมามอบให้พนักงานสอบสวน แต่เป็นข้อความที่มีการส่งต่อกันในโซเชียล ซึ่งตำรวจได้เชิญคุณแม่มาให้ข้อมูลเพิ่มในช่วงบ่ายวันนี้

สำหรับการเชิญพยานทั้ง 5 คนมาตรวจร่างกายโดยละเอียดในวันนี้ ได้ให้พยานทั้งหมด นำเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุมามอบให้แล้ว หลังจากนี้จะดำเนินการนำไปตรวจหาดีเอ็นเอหรือหลักฐานอื่นๆ ต่อไป ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าเหตุใดจึงไม่มีการตรวจร่างกายพยานทั้ง 5 คนโดยละเอียดตั้งแต่แรก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า เนื่องจากในครั้งแรกทั้ง 5 คนมาให้การในฐานะพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ใช่ในฐานะผู้ต้องหา การตรวจร่างกายจึงต้องได้รับความยินยอมก่อน

และหลังจากตรวจร่างกายเสร็จในวันนี้ ก็จะมีการสอบปากคำพยานบางคนเพิ่มเติมด้วย ส่วนผลการตรวจเลือดของพยานทั้ง 5 คน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอผลจากห้องปฏิบัติการ

ทางด้าน พันตำรวจเอกหญิง ณปภัช ณัฏฐสุมน นายแพทย์ (สบ5) หัวหน้ากลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับบุคคล สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ระบุว่า จากการตรวจร่างกาย พบบาดแผลที่ร่างกายของนายจ็อบ เป็นรอยขีดข่วนที่บริเวณแขนและรอยช้ำที่ด้านหลังหัวไหล่ ซึ่งอายุของทั้งสองบาดแผลเกิดขึ้นประมาณ 5-7 วัน ซึ่งอยู่ในช่วงของวันที่เกิดเหตุ แต่รอยข่วนมีลักษณะใหญ่กว่ารอยเล็บ ไม่น่าจะเกิดจากเล็บข่วน ส่วนรอยช้ำเกิดจากถูกกระแทกด้วยของแข็ง แต่ระบุไม่ได้ว่าเป็นของแข็งชนิดใด และลักษณะไม่เข้าข่ายเป็นร่องรอยจากการต่อสู้

ส่วนผลชันสูตรร่างกายของแตงโม ยืนยันว่า เสียชีวิตจากการจมน้ำ เนื่องจากพบโคลนในปอด และกระเพาะอาหาร แต่การตรวจสอบกระเพาะปัสสาวะ ไม่สามารถตรวจสอบได้แล้ว เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลังเสียชีวิต ทำให้หูรูดกระเพาะปัสสาวะเสื่อม

ขณะที่บาดแผลขนาดใหญ่ที่ต้นขาด้านในข้างซ้ายของแตงโม ระบุได้แค่ว่าเกิดจากของมีคม แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดจากใบพัดเรือหรือไม่ รวมถึงบาดแผลเล็กๆ อีกหลายแผลที่บริเวณด้านในขาข้างซ้าย ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งจาการชันสูตรพบบาดแผลเพียงแค่ท่อนล่างดังกล่าว ส่วนร่องรอยอื่นๆ เช่น รอยฟกช้ำที่บริเวณดวงตา ทั้งหมดเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายภายหลังการเสียชีวิต

ส่วนการตรวจสอบวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ระบุว่า อยู่ระหว่างการนำส่งวัตถุพยานไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ คาดว่า 3-4 วันจึงจะทราบผล ทั้งการตรวจสอบหาคราบปัสสาวะที่บริเวณท้ายเรือ / ที่ชุดบอดี้สูท และแผ่นอนามัย (แคร์ฟรี) ที่แปะอยู่บนชุด รวมถึงการตรวจวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของระยะในการเอื้อมจับขาขณะนั่งปัสสาวะ ทั้งนี้ วัตถุพยานที่พบภายในเรือ ไม่มีสิ่งที่บ่งชี้ถึงเรื่องยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ กับใครเพิ่ม เนื่องจากหลักฐานยังไปไม่ถึง อยู่ระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และยังไม่มีความจำเป็นต้องนำพยานเข้าเครื่องจับเท็จ เพราะกระบวนการสอบสวนตามปกติยังใช้ได้เพียงพออยู่ หากพบความขัดแย้งกัน ก็จะนำเป็นข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อ ส่วนจะใช้เวลากี่วันในการสรุปสำนวนเพื่อส่งอัยการ อาจจะต้องใช้เวลานานเพราะมีรายละเอียดเยอะ จึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ

Related Posts

Send this to a friend