จับตาเศรษฐกิจโลก หลังจีนสั่งล็อกดาวน์เฉิงตู คุม 21 ล้านคน ออกนอกบ้านเฉพาะที่จำเป็น
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองเฉิงตูของจีน วันนี้ (2 ก.ย. 65) ว่า เทศบาลเมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ประกาศล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่วานนี้ (1 ก.ย. 65) โดยยังไม่มีกำหนดชัดเจนว่า มาตรการจะสิ้นสุดวันไหน
สำหรับมาตรการครั้งนี้ เทศบาลประกาศแจ้งประชากรราว 21.2 ล้านคน ให้อยู่ภายในเคหสถานให้มากที่สุด แต่ละครัวเรือนสามารถส่งตัวแทนได้ 1 คนเดียว สำหรับออกนอกบ้านเพื่อจับจ่ายซื้อหาสิ่งของจำเป็น ภายในข้อกำหนดที่วันละ 1 ครั้งเท่านั้น
มาตรการนี้ เกิดขึ้นหลังเทศบาลได้รับการยืนยันจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ 157 คน ถือเป็นการล็อกดาวน์มหานครครั้งใหญ่ที่สุดของจีน นับตั้งแต่การล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ ที่มีประชากร 25 ล้านคน ต่อเนื่องยาวนานถึง 2 เดือน คือระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 65
เมื่อวันอังคาร (30 ส.ค. 65) ที่ผ่านมา มณฑลเหอเป่ยได้ประกาศล็อกดาวน์ ส่งผลให้ประชากรราว 4,000,000 คน ต้องอยู่แต่ภายในบ้าน โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลถึงสุดสัปดาห์นี้เท่านั้น ขณะที่เมืองอื่นๆในจีน เช่น ชิงไห่ เซินเจิ้น เทียนจิน ประชาชนหลายล้านคนยังต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ และต้องทำงานที่บ้านเป็นเวลา 3 วัน ส่วนสถานบันเทิงต่างๆ ยังต้องปิดให้บริการชั่วคราว ขณะที่ประชาชนต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อ ก่อนเข้าพื้นที่ต่างๆ
หลังจากมีประกาสล็อกดาวน์ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ ปรับลดทันที เนื่องจากตลาดกังวลอุปสงค์ชะลอตัว ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี ระบุว่า จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองใหญ่ อาจกระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และทำให้ GDP ขยายตัวได้ต่ำกว่าเป้า โดยเมืองเฉิงตู ถือเป็นฐานการผลิตของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ ฟ็อกซ์คอน์ ผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับแอปเปิล , อินเทล ผู้ผลิตชิปของสหรัฐ และกลุ่มยานยนต์ อาทิ โตโยต้า และโฟล์กสวาเกน
