BANGKOK

กทม. เตือนเจ้าของหมา–แมว ปี 69 บังคับใช้กฎหมายใหม่ ต้องจดทะเบียน-เลี้ยงตามขนาดพื้นที่

กทม. เตือนเจ้าของหมา–แมว ปี 69 บังคับใช้กฎหมายใหม่ ต้องจดทะเบียนสัตว์-ใช้สายจูง เลี้ยงได้ตามขนาดพื้นที่ ฝ่าฝืนมีโทษ

วันนี้ (23 เม.ย. 68) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครประกาศใช้ข้อบัญญัติควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ.2567 ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2569 เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่ข้อบัญญัติดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ โดยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงหรือผู้อยากเลี้ยงสัตว์ศึกษารายละเอียดของข้อบัญญัติ หากไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืน อาจได้รับโทษตามกฎหมาย

สาระสำคัญตามข้อบัญญัติฉบับใหม่ เป็นการจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดพื้นที่ ดังนี้

1.สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ เช่น โค กระบือ ม้า กวาง เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว ต่อพื้นที่ 50 ตารางวา

2.สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น แพะ แกะ สุกร ม้าแคระ เลี้ยงได้ไม่เกิน 3 ตัว ต่อพื้นที่ 50 ตารางวา

3.สัตวปีก แบ่งเป็น ไก่ เป็ด ห่าน เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว ต่อพื้นที่ 4 ตารางเมตร ส่วนนกขนาดใหญ่ เช่น นกกระจอกเทศ เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว ต่อพื้นที่ 50 ตารางเมตร และนกขนาดเล็ก เลี้ยงได้ไม่เกิน 5 ตัว ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร

ห้ามเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ที่ต้องควบคุมในที่หรือทางสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานคร ยกเว้นกรณี

1.เพื่อรักษาโรคเจ็บป่วยหรือสร้างเสริมภูมคุ้มกันของสัตว์

2.เพื่อกิจกรรมใด ๆ ที่กรุงเทพมหานครประกาศกำหนด

3.เพื่อการย้ายถิ่นที่อยู่ของเจ้าของสัตว์

4.การเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ของทางราชการ และการปล่อยเพื่อการกุศลหรือจารีตประเพณี

สำหรับการเลี้ยงสุนัขและแมว เจ้าของสุนัข และแมวมีหน้าที่นําใบรับรองไปจดทะเบียน ณ สถานที่ที่กรุงเทพมหานครกำหนด ภายใน 120 วัน นับแต่วันที่สัตว์เกิด หรือภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นําสัตว์มาเลี้ยงในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกำหนดจำนวนการเลี้ยงสุนัขและแมว ดังนี้

– ห้องเช่าหรืออาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ขนาด 20–80 ตารางเมตร เลี้ยงได้ 1 ตัว

– ห้องเช่าหรืออาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ขนาด 80 ตารางเมตรขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว

– เนื้อที่ดิน ไม่เกิน 20 ตารางวา เลี้ยงได้ 2 ตัว

– เนื้อที่ดิน ไม่เกิน 50 ตารางวา เลี้ยงได้ 3 ตัว

– เนื้อที่ดิน ไม่เกิน 100 ตารางวา เลี้ยงได้ 4 ตัว

– เนื้อที่ดิน 100 ตารางวา ขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 6 ตัว

เมื่อพาสุนัขหรือแมวออกนอกบ้านหรือสถานที่เลี้ยง ต้องใช้สายจูงที่แข็งแรงตลอดเวลา หรือใช้กระเป๋า คอก กรง หรืออุปกรณ์อื่นที่เหมาะสม ห้ามปล่อยให้รบกวนผู้อื่น และเจ้าของหรือผู้เลี้ยงต้องเก็บอุจจาระสัตว์ในที่สาธารณะทุกครั้ง สำหรับสุนัขควบคุมพิเศษ พันธุ์อันตราย สุนัขที่มีประวัติทำร้ายคนหรือพยายามทำร้ายคน ต้องใช้อุปกรณ์ครอบปาก ใช้สายจูงที่มีมั่นคงแข็งแรงและจับสายจูงห่างจากคอสุนัขไม่เกิน 50 เซนติเมตร ตลอดเวลา

ทั้งนี้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถนำสุนัขและแมวไปรับการฝังไมโครชิป ฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า และผ่าตัดทำหมัน ได้ฟรีที่คลินิกสัตวแพทย์ของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 8 แห่ง โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนเข้ารับบริการ ดังนี้

1.คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 1 สีพระยา เขตบางรัก โทร. 0 2236 4055 ต่อ 213

2.คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 2 มีนบุรี เขตมีนบุรี โทร. 0 2914 5822

3.คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 3 วัดธาตุทอง เขตวัฒนา โทร. 0 2392 9278

4.คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 4 บางเขน เขตจตุจักร โทร. 0 2579 1342

5.คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 5 วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ โทร. 0 2472 5895 ต่อ 109

6.คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 6 ช่วงนุชเนตร เขตจอมทอง โทร. 0 2476 6493 ต่อ 1104

7.คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 7 บางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย โทร. 0 2411 2432

8.กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ถ.มิตรไมตรี เขตดินแดง โทร. 0 2248 7417

สำหรับผู้ที่เลี้ยงสุนัขก่อนข้อบัญญัตินี้ออก และช่วงเวลาที่อยู่ในระหว่างไม่บังคับใช้ 360 วัน ยังคงให้ใช้ข้อบัญญัติเดิม คือ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข 2548 โดยต้องฝังไมโครชิป และจดทะเบียนสุนัข (# ไม่รวมแมว)

Related Posts

Send this to a friend