รองฯ ศานนท์ ปิ๊งไอเดียจัดลอยกระทงดิจิทัลแห่งแรกที่คลองโอ่งอ่าง
รองฯ ศานนท์ ปิ๊งไอเดียจัดลอยกระทงดิจิทัลแห่งแรกที่คลองโอ่งอ่าง รณรงค์ 3 ปลอด ลดขยะ
วันนี้ (22 พ.ย. 66) นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในงานแถลงข่าวเทศกาลลอยกระทงกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2566 ณ บริเวณสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด
นายศานนท์ กล่าวว่า งานลอยกระทงเป็นงานสำคัญ ตนเองเพิ่งได้คุยกับรัฐบาลเรื่องเทศกาล งานสำคัญ ซึ่งแต่ละประเทศจะมีเทศกาลที่สำคัญต่างกัน โดยของกรุงเทพมหานคร มีเทศกาลสำคัญคือ Winter Festival หรือเทศกาลลอยกระทงที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของงาน อีกงานคือเทศกาลสงกรานต์ หรือ Water Festival ซึ่งต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
งานลอยกระทงปีนี้มีอยู่ 2 ประเด็น คือเรื่องวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการจัดงานลอยกระทงครั้งนี้ จึงมี 3 ภารกิจหลักที่สำคัญ เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงได้ด้วย โดยภารกิจแรก คือการจัดกิจกรรมตามประเพณีนิยม สืบสานวัฒนธรรมลอยกระทง ภารกิจด้านความปลอดภัย เนื่องจากท่าน้ำหลายท่าไม่ได้ถูกใช้มานาน ไม่พร้อมสำหรับการใช้งาน แต่วันลอยกระทงผู้คนจะเข้าสู่แม่น้ำ กรุงเทพมหานคร จึงต้องมีการตรวจโป๊ะ ท่าน้ำ และความปลอดภัยบริเวณสถานที่จัดงานลอยกระทงที่จะจัดขึ้น โดยสำนักกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) และสำนักเทศกิจ เข้ามาดูแลความปลอดภัย
ด้านภารกิจสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานครมีการ ”รณรงค์ 3 ปลอด” ปลอดแรก คือปลอดวัสดุที่ไม่เป็นธรรมชาติ ปลอดที่ 2 คือปลอดโป๊ะที่ไม่เรียบร้อย และปลอดที่ 3 คือปลอดโคมไฟ พลุ
นายศานนท์ ย้ำว่าเราจะไม่หยุดแค่เรื่องการรณรงค์ แต่จะมีทางเลือกใหม่ ซึ่งปีนี้จะเป็นปีแรกที่มีการลอยกระทงออนไลน์เกิดขึ้นที่คลองโอ่งอ่าง เป็นการลอยกระทงแบบดิจิทัลบนผืนน้ำ ดังนั้นการลอยกระทงครั้งนี้กรุงเทพมหานครจึงต้องดูแลทั้ง 3 ภารกิจให้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี และต้องขอบคุณทั้ง 50 สำนักงานเขตและภาคีเอกชนที่ร่วมกันจัดงาน เชื่อว่างานลอยกระทงในครั้งนี้ จะเป็นงานลอยกระทงครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งมีการจัดงานมากกว่า 79 แห่งทั่วกรุงเทพมหานคร เชื่อว่าจะเป็นงานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี
สำหรับกรุงเทพมหานคร กำหนดจัดงานลอยกระทงใน 2 พื้นที่หลัก ได้แก่ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด และคลองโอ่งอ่าง เขตพระนคร รวมทั้งเปิดพื้นที่สวนสาธารณะ 34 แห่ง ให้ลอยกระทงได้ ภายใต้มาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนสูงสุด โดยตั้งศูนย์บัญชาการควบคุมปริมาณคนในแต่ละพื้นที่ไม่ให้หนาแน่นเกินไป มีการจัดตั้งจุดเข้า-ออกชัดเจน โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เช่น กองบังคับการตำรวจน้ำกองบัญชาการตำรวจนครบาล หน่วยงานความมั่นคง กรมเจ้าท่า และภาคีเครือข่ายต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุและอุบัติภัย ตลอดจนการควบคุม การจำหน่ายและการเล่นพลุ ดอกไม้ไฟ รณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า รวมทั้งให้ประชาชนใช้วัสดุธรรมชาติในการทำกระทง เพื่อลดปริมาณขยะและช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม













