ทวิดา ยืนยันจำนวนเตียงผู้ป่วยมีเพียงพอ กำชับ 50 เขต สแกนจุดเสี่ยง-บันทึกข้อมูลการเดินทาง
วันนี้ (10 ม.ค.66) รศ.ดร. ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพ กทม. เป็นครั้งที่ 1/2566 ว่า กทม. อยู่ระหว่างรอความชัดเจนเรื่องรายละเอียดจากกระทรวงสาธารณสุข โดยวันที่ 12 ม.ค. 2566 คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ จะประชุมเพื่อกำหนดสถานที่รักษาพยาบาล กักตัว ตรวจ RT-PCR และสถานที่ฉีดวัคซีนให้กับนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติที่เข้ามาในไทย ทั้งนี้วันที่ 19 – 25 ม.ค.2566 จะเปิดให้ฉีดวัคซีนที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์อีกครั้ง ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เนื่องจากในช่วงปลายเดือนธันวาคม พบว่า มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการร้อยละ 10-15 ของผู้ใช้บริการทั้งหมด
ส่วนสถานที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติม อยู่ระหว่างการพิจารณา เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่แออัดและเป็นสถานที่ที่จัดหน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้ เบื้องต้น กทม. มีความพร้อมทั้งเตียง เวชภัณฑ์ วัคซีน และบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมมอบหมายให้ผู้ประกอบการ อาทิ สมาคมโรงแรม สมาคมมัคคุเทศก์ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว และสมาคมภัตตาคารไทย พาพนักงานมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น
สำหรับจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วย ยืนยันว่ามีเพียงพอ เนื่องจากตั้งแต่เปิดปีใหม่มามีผู้ป่วยโควิด-19 ไม่เกิน 300 คนต่อวัน จำนวนนี้ 10% เป็นผู้ป่วยเหลือง-แดง และอัตราการเสียชีวิตเพียง 1-2 คนต่อวันเท่านั้น
รศ.ดร.ทวิดา เน้นย้ำ 3 เรื่องกับที่ประชุม ได้แก่ 1.ขอให้ กทม. อยู่ในคณะทำงานสามฝ่าย (กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) 2.ขอให้ออกขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับหัวหน้ากรุ๊ปทัวร์ 3.แลกเปลี่ยนข้อมูลการเดินทางของนักท่องเที่ยว เพื่อศึกษา Situation awareness
นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้รายงานสถานที่ที่คาดว่านักท่องเที่ยวจะไปรวมกลุ่มกันจำนวนมาก เช่น กทม. กลาง เขตพระนคร ถนนข้าวสารและวัดสำคัญ กทม. ใต้ พระพรหม แยกราชประสงค์ สามย่านมิตรทาวน์ สยามพารากอน เทอมินอล21 และประตูน้ำ ส่วน กทม. เหนือ จะเป็นโซนสถานบันเทิง ซึ่งได้กำชับทั้ง 50 เขตให้บันทึกเส้นทางการเดินทางของนักท่องเที่ยว เพื่อประกอบมาตรการสุขภาพของ กทม.
