กทม. จัดเก็บภาษีเกินเป้า คาดสิ้นปีเก็บได้ถึง 9.7 หมื่นล้านบาท
พร้อมเตรียมข้อมูลหารือ PM 2.5 ร่วมกับรัฐบาล เนื่องจากใกล้ถึงฤดูฝุ่นสูง
วันนี้ (4 ก.ย. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 19/2566 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า ว่าปีนี้การจัดเก็บรายได้ที่ค่อนข้างดี ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ภาพรวมกรุงเทพมหานครจัดเก็บได้ 91,319,809,630.11 บาท (คิดเป็น 115.59 %) จากที่ประมาณการไว้ 79,000,000,000 บาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะจัดเก็บภาษีได้ถึง 97,000 ล้านบาท
สำหรับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจัดเก็บได้ค่อนข้างดีประมาณ 11,000 ล้านบาท ถือว่าการจัดเก็บมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าปีที่แล้วเนื่องจากเร่งทำฐานข้อมูลมากขึ้นและส่งใบเก็บภาษีได้ถึง 1 ล้านคน ขณะที่รายได้ที่กรุงเทพมหานครจัดเก็บเองประมาณ 19,000 ล้านบาท รายได้ที่ส่วนราชการอื่นจัดเก็บให้ จัดเก็บได้ประมาณ 72,000 ล้านบาท โดยรายได้ที่ส่วนราชการอื่นจัดเก็บให้ได้มากที่สุด คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม 37,285 ล้านบาท ซึ่งภาษีมูลค่าเพิ่มมี 2 ส่วน คือ แบ่งตามจุดซื้อขายและแบ่งตามจำนวนประชากร ซึ่งปัจจุบันประชากรที่ลงทะเบียนในกรุงเทพมหานครมีจำนวนหนึ่ง แต่จำนวนประชากรแฝงมีเกือบถึง 10 ล้านคน ต้องหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้การให้ทะเบียนประชากรสอดคล้องกับจำนวนประชากรที่อยู่จริง
ด้านภาษีรถยนต์ เก็บได้ประมาณ 17,000 ล้านบาท ยังมีผู้ที่ยังไม่ดำเนินการจ่ายอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ กทม.ได้มี MOU กับขนส่งเพื่อจะเร่งเก็บภาษีในส่วนนี้เพิ่มเติม
การเก็บภาษีในแต่ละเขต มีหน่วยงานที่เก็บภาษีได้เกินเป้า 7 หน่วยงาน ได้แก่
1.กองรายได้
2.เขตลาดกระบัง
3.เขตลาดพร้าว
4.เขตสวนหลวง
5.เขตจตุจักร
6.เขตหนองจอก
7.เขตห้วยขวาง
อย่างไรก็ตาม มีบางเขตที่เก็บได้น้อย เช่น เขตดอนเมืองเก็บได้เพียง 38% เนื่องจากกระทรวงการคลังเปลี่ยนวิธีคำนวนการประเมินภาษีทำให้ภาษีที่ดินแปลงใหญ่จากแต่ก่อนอาจเก็บได้อัตราหนึ่ง แต่เมื่อมีการปรับวิธีการคำนวนประเมินใหม่การเก็บภาษีจึงเก็บได้ลดลง ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงต้องศึกษา 2 ประเด็น คือ การปรับวิธีการคำนวนราคาประเมินทำให้มีการสูญเสียรายได้ที่ควรจะเป็นเท่าใด และเกษตรที่ผิดวัตถุประสงค์ คือเกษตรที่ทำเพื่อหวังลดภาษีมีเท่าใด ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องหารือกับรัฐบาลว่ามีข้อแนะนำอย่างไร
นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงเรื่องฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากใกล้ถึงฤดูฝุ่นสูง ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมหารือร่วมกับกรมควบคุมมลพิษในการรับมือ PM2 .5 ปัจจุบันมีข้อมูลต่าง ๆ เช่น ฝุ่นมาจากไหน มีมาตรการอย่างไร การพยากรณ์เป็นอย่างไร รวมถึงการปรับเกณฑ์ใหม่ แถบสีต่าง ๆ จะมีความเข้มข้นมากขึ้น ทั้งนี้มีการวางแผนเพื่อหารือกับรัฐบาลเนื่องจากหลายส่วนควบคุมไม่ได้และเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญลำดับต้น ๆ ของรัฐบาลอยู่แล้ว
