ดีเอสไอ พร้อมผู้เชี่ยวชาญเก็บชิ้นส่วนคอริ่งปูน-เหล็ก ปล่องลิฟต์-เสาอาคาร สตง.
ดีเอสไอ – โยธาฯ – ตำรวจ พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้าง เข้าเก็บชิ้นส่วนคอริ่งปูน และเหล็ก บริเวณปล่องลิฟต์ และเสาด้านหน้าอาคาร สตง. เพื่อตรวจมาตรฐาน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้สูญหายใกล้ครบจำนวน ยอดผู้คงเหลือล่าสุด 8 คน
วันนี้ (3 พ.ค. 68) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ, กรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้าง จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงพื้นที่เข้าตรวจสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) บริเวณปล่องลิฟต์ และเสาด้านหน้า เพื่อเก็บชิ้นส่วนคอริ่งปูน และเหล็ก ตรงจุดดังกล่าว ไปตรวจสอบมาตรฐานของโครงสร้าง โดยจะมีการเก็บชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 7.5 ซม. สูง 20-30 ซม. ไม่ต่ำกว่า 3 ชิ้น เพื่อนำไปตรวจทดสอบในห้องแล็ป หาค่ากำลังอัดประลัย ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสาปูนหรือผนังปูน ต้องมีค่าตรวจอยู่ที่ 500 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร หากต่ำกว่าค่าดังกล่าวจะถือว่าตกเกณฑ์มาตรฐาน
ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย และผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานยังคงระดมกำลังกันค้นหาผู้ติดค้าง โดยคาดว่าจะอยู่ที่บริเวณชั้นใต้ดินของซากอาคาร สตง. เบื้องต้นมีการใช้เครื่องจักรและแก๊สในการตัดเหล็กอย่างต่อเนื่อง โดยนายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า การค้นหาผู้สูญหาย เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ร่างในสภาพสมบูรณ์ ระบุเพศได้ 1 ร่าง เป็นผู้หญิง 1 คน ไม่สามารถระบุได้ 2 ร่าง และยังพบชิ้นส่วนมนุษย์เพิ่มอีก 22 ชิ้น
ส่วนการปปฏิบัติภารกิจที่ทำการค้นหา บริเวณทางเชื่อมที่คาดว่าผู้ประสบภัยจะวิ่งออกจากชั้น 1 แล้วมุ่งหน้าไปยังด้านหลังฝั่งอาคารจอดรถ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังลงไปไม่ถึงด้านล่างตรงจุดดังกล่าว โดยยังต้องเจาะพื้นลงไปอีก 2 เมตร เนื่องจากชั้นใต้ดินมีความสูง 4 เมตร ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถเจาะลึกลงไปได้เพียง 2 เมตรเท่านั้น โดยคาดการณ์ว่าด้านล่างจะเป็นทางเชื่อมกันระหว่างอาคาร สตง.กับลานจอดรถ แต่ด้วยลักษณะการเกิดเหตุอาคารถล่มได้กดทับลงมายังพื้นด้านล่าง จึงทำให้ชั้นที่ 1 จะสูงห่างจากชั้นใต้ดินไม่เกิน 1 เมตร หรืออาจจะสูงเพียงครึ่งเมตร โดยในจุดนี้จากการประเมินของเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าจะมีผู้ประสบภัยเพิ่มเติม
สำหรับจำนวนผู้ประสบภัยจาก 103 คน ซึ่งพบแล้วเสียชีวิต 83 คน บาดเจ็บ 9 คน ก็ยังคงเหลือผู้ประสบภัยที่อยู่ระหว่างการค้นหาอีก 11 คน โดยเมื่อวานเจ้าหน้าที่พบเพิ่มอีก 3 คน ก็จะเท่ากับตอนนี้เหลือผู้สูญหาย 8 คนที่อยู่ระหว่างทำการค้นหา แต่เมื่อนำข้อมูลไปเปรียบเทียบกับการรับแจ้งความจากพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ว่า ได้รับแจ้งเพิ่มเติมตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม เพิ่มจำนวน 4 คน ซึ่งก็ทำการค้นหาจนพบ โดยตัวเลขทั้งหมดอาจมี 104 คน หรือมากกว่านั้น จึงทำให้ปฏิบัติการค้นหาต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถยุติการค้นหาต่อไปได้ แม้จะพบร่างจำนวนคนที่สูญหายตามตัวเลขทั้งหมดแล้วก็ตาม เพราะหากยกเลิกภารกิจก็มีความเสี่ยงที่ต้องทิ้งผู้สูญหายเอาไว้ โดยเป้าหมายของเจ้าหน้าที่ทุกคนคือการช่วยเหลือคนนำทุกคนที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารออกให้หมด เพื่อส่งมอบร่างให้กับญาติ จึงยืนยันว่าจะยังไม่หยุดปฏิบัติการ จนกว่าจะเข้าเคลียร์ได้ทุกพื้นที่ ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 1 สัปดาห์
ส่วนการขนย้ายซากอาคารเมื่อวานที่ผ่านมาขนย้ายซากอาคาร สตง. จำนวน 204 เที่ยว โดยจุดที่ทิ้งซากอาคารได้มีการตรวจซ้ำต่อวันจำนวน 2 รอบ คือเช้าและเย็น ซึ่งใช้สุนัข k9 ทำการค้นหา และช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ได้พบชิ้นส่วนมนุษย์เพิ่ม จำนวน 2 ชิ้น และช่วงเย็นของเมื่อวานพบ 2 ชิ้น รวมชิ้นส่วนที่หลุดไป 4 ชิ้น ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่อยู่ใน 22 ชิ้นที่แจ้งให้ทราบไปก่อนหน้านี้