TECH

เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มความสามารถ-ความปลอดภัย

ยกระดับประสบการณ์การทำงานแบบไฮบริด เพิ่มความฉลาดด้วยชุดซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้การใช้งานร่วมง่ายขึ้น ในขณะที่ปกป้องความเป็นส่วนตัว และการเชื่อมต่อกับเครือข่ายให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เสริมแกร่งเดลล์ให้เป็นดีไวซ์เพื่อการใช้งานในทุกที่อย่างสมบูรณ์ เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ออกแบบลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประกาศเปิดตัวสายผลิตภัณฑ์ใหม่ของกลุ่มพีซี อุปกรณ์เสริม ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ เพื่อเสริมความแกร่งให้กับอนาคตการทำงานในรูปแบบผสมผสาน หรือไฮบริด เวิร์ก ซึ่งกำลังจะกลายเป็นมาตรฐานในการทำงาน การวิจัยใหม่ของเดลล์ เทคโนโลยีส์ พบว่าร้อยละ 44 ของคนทำงานต่างต้องการให้ผู้บริหารเปิดโอกาสในการเลือกรูปแบบการทำงาน และจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานในการทำงาน

นพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์ อธิบายว่า “ในขณะที่พนักงานต้องเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งในการทำงาน การสร้างประสบการณ์การทำงานที่มีประสิทธิภาพคือสิ่งสำคัญอันดับแรก กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานในเชิงธุรกิจล่าสุดของเดลล์ มีเป้าหมายในการช่วยให้ทีมไอทีสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการทำงาน โดยให้ความสำคัญกับความสามารถด้านการทำงานร่วมกัน ขีดความสามารถ และความปลอดภัยเป็นอันดับแรก โดยพร้อมลงทุนเพื่อการพัฒนาให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ในปัจจุบัน และอนาคตได้”

Dell Optimizer ชุดซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบบูรณาการ เป็นขุมพลังอัจฉริยะของเดลล์ด้วยระบบ built-in AI ช่วยขับเคลื่อนประสบการณ์การทำงานแบบคอลลาบอเรชัน และประสบการณ์เฉพาะตัวบุคคลมากขึ้น ถูกพัฒนาเพื่อการทำงานในรูปแบบไฮบริด โดยดูแล

ความเป็นส่วนตัว (Privacy) ด้วยชุดคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวอัจฉริยะใหม่ที่ครอบคลุม ผู้ใช้สามารถปกปิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนบนหน้าจอได้หากมีการตรวจพบผู้รุกล้ำ นอกจากนี้ เครื่องพีซีจะหรี่แสงโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ละสายตาจากหน้าจอเพื่อช่วยปกป้องข้อมูลและช่วยประหยัดพลังงาน

การเชื่อมต่อ (Connectivity) สามารถเชื่อมต่อหลายเครือข่ายในเวลาเดียวกันเป็นครั้งแรกของโลก เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายทั้งแบบมีสายหรือไร้สายสองเครือข่ายได้พร้อมกันเพื่อการถ่ายโอนและดาวน์โหลดข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในครั้งเดียว นอกจากนี้ ยังให้การบัฟเฟอร์ที่น้อยลงและเวลาในการตอบสนอง หรือลาเทนซีที่ลดลงสูงสุดถึง 30%

การทำงานร่วมกัน (Collaboration) Dell Optimizer มีฟีเจอร์ที่พัฒนาการตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้นเพื่อสัมผัสสภาพแวดล้อมของคนทำงาน รวมไปถึงการลดเสียงรบกวนรอบข้างที่ไม่เป็นที่ต้องการสำหรับผู้ใช้และบุคคลอื่นในที่ประชุม และยังยกระดับขีดความสามารถด้านการจัดการโดยการนำรูปแบบการติดตั้งแบบแยกส่วน (modular installation) มาใช้ ทำให้ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบไอทีสามารถเลือกติดตั้งคุณสมบัติการทำงานที่ต้องการได้อย่างยืดหยุ่น

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในครั้งนี้ เน้นทั้งเรื่องประสิทธิภาพ และการพกพาสะดวก โดยทำงานบน 12th Gen Intel® Core โพรเซสเซอร์ และทางเลือกเพื่อการเชื่อมต่อเครือข่าย (connectivity) ล่าสุด ซึ่งรวมถึง 5G และ Intel® Wi-Fi 6E โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้งานเชิงธุรกิจ และสำหรับครีเอเตอร์

Latitude 9430 ทั้งเครื่องแล็ปท็อปอัลตร้าพรีเมียมพิเศษ หรือเครื่องแบบ 2-in-1 โน้ตบุ๊กเชิงธุรกิจขนาด 14 นิ้ว 16:10 ที่เล็กที่สุดในโลก พร้อมอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่ดีที่สุดบนพีซีธุรกิจขนาด 14 นิ้ว มีให้เลือกในสีเมทัลลิคกราไฟต์ และยังมีกล้อง FHD ใหม่สำหรับการสนทนาทางวิดีโอที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

Latitude 7330 Ultralight บิสสิเนสโน้ตบุ๊กที่พกพาสะดวกแต่มีความทนทานเป็นอย่างยิ่งของเดลล์คือแล็ปท็อปเพื่อการใช้งานเชิงธุรกิจระดับพรีเมียมขนาด 13.3 นิ้ว 16:9 ที่เล็กที่สุดและเบาที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนัก 2.13 ปอนด์ หรือ 0.967 กิโลกรัม เครื่องแล็ปท็อปมาพร้อมพอร์ตการทำงานทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อสร้างความสมดุลด้านความสามารถในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกับฟอร์มแฟคเตอร์คุณภาพสูงโดยไม่กระทบต่อความน่าเชื่อถือของแล็ปท็อปในระดับของ Latitude

Latitude 7000 series ใหม่มาพร้อมกับโพรเซสเซอร์ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและตัวเลือกหน่วยความจำ DDR5 ในขณะที่ปรับระบบการระบายความร้อน และระบบเสียงอะคูสติกให้ดียิ่งกว่าเดิม ขณะเดียวกัน Latitude 2-in-1s ได้จับคู่การทำงานกับ Dell Premier Rechargeable Active Pen ปากกาแอคทีฟ เพน ตัวแรกของโลกที่มากับ Tile location tracking ที่สามารถติดตามตำแหน่งได้ผ่านบลูทูธ ทั้งนี้ เดลล์ยังอัปเดต Latitude 5000 ซีรีส์ พร้อมการเปิดตัว Latitude 3330 ใหม่อีกด้วย

Precision 5470 ใหม่มาพร้อมกับ 12th Gen Intel® Core i9 โปรเซสเซอร์ หน่วยความจำ DDR5 64GB พื้นที่จัดเก็บ 4TB และตัวเลือกกราฟิก NVIDIA RTX A1000 พร้อมกราฟิก 4GB GDDR6 หรือ Intel® Arc™ Pro A30M และเดลล์ยังเปิดตัวโมบายล์เวิร์กสเตชันขนาด 15 และ 17 นิ้วที่บางที่สุดและเล็กที่สุด ซึ่งก็คือ Precision 5570 และ 5770 อีกด้วย

นักธุรกิจและผู้ประกอบอาชีพด้านครีเอทีฟสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในงานทำงาน ปรับปรุงการทำงานของพวกเขาด้วยความชัดเจนระดับ 4K บนจอภาพ Dell UltraSharp 32 และ 27 4K USB-C Hub จอมอนิเตอร์แรกของโลกที่มีเทคโนโลยี IPS Black ที่ล้ำสมัย โดยให้คอนทราสต์ที่เข้มข้น สีดำที่เข้มลึก และมุมมองการรับชมที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของจอภาพในแบบ dual monitor นอกจาก Dell UltraSharp 30 USB-C Hub Monitor จะมาพร้อมขนาดแล้ว 16:10 แล้ว จอภาพเหล่านี้ยังมีขอบเขตสีที่กว้าง มี ComfortView Plus เพื่อความสบายตาที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงคุณสมบัติการทำงานหลายอย่าง (multi-tasking) ไปพร้อมๆ กัน และพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ ด้วยความคำนึงถึงการเคลื่อนย้ายระหว่างพื้นที่ที่ใช้ในการทำงานไปมา ดีไวซ์ระบบนิเวศและบริการต่างๆ ด้านไอที จึงมีความสำคัญสำหรับประสบการณ์ที่ราบรื่นและเรียบง่าย ฟีเจอร์บนเดลล์ ยังมี

Dell Dual Charge Dock ขนาดกะทัดรัดคือ docking station สำหรับแล็ปท็อปเครื่องแรกของโลกที่มากับแท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน และหูฟังที่รองรับมาตรฐาน Qi ที่สามารถซัพพอร์ตมอนิเตอร์แบบ 4K สูงสุด 1 คู่ เหมาะสมอย่างที่สุดสำหรับโฮมออฟฟิศ นอกจากนี้ ยังมี Dell ThunderboltTM Dock พร้อมการออกแบบในแบบโมดูลาร์ที่พร้อมสำหรับอนาคต ที่รองรับความสามารถในการอัพเกรดที่ง่ายดายจากรุ่นก่อนหน้า ให้การชาร์จที่รวดเร็วราวสายฟ้า ผ่าน Thunderbolt™ 4 และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเชื่อมต่อจอแสดงผล 4K รวมถึงอุปกรณ์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ สำหรับการใช้งานในออฟฟิศทั่วไปและDell Universal Dock ที่เหมาะที่สุดสำหรับพื้นที่ทำงานที่ใช้ร่วมกัน มอบประสบการณ์ที่สอดคล้องกันสำหรับแล็ปท็อป USB-C พร้อมจำนวนพอร์ตสูงสุดใน Universal Dock

และเพื่อตอบสนองการคอนเฟอร์เรนซ์ Dell Speakerphone และ Dell Slim Conferencing Soundbar ใหม่ คือสปีกเกอร์โฟนและซาวด์บาร์ที่ได้รับการรับรองจาก Microsoft Teams ที่มีความชาญฉลาดที่สุดในโลก ทั้งคู่มาพร้อมความสามารถในการตัดเสียงรบกวนด้วย AI ที่ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ในขณะที่ยังคงความชัดเจนของเสียงมนุษย์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์และชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ สายผลิตภัณฑ์ใหม่ของเดลล์มาพร้อมกับวัสดุที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการใช้นวัตกรรมในการใช้วัสดุที่ยั่งยืนในเครื่อง Latitude 5000 ซีรีส์ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ใหม่ยังทำมาจากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และสามารถรีไซเคิลได้ทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ใน Latitude แล็ปท็อปใหม่ทั้งหมด รวมถึง Precision โมบายล์เวิร์กสเตชัน และใน XPS 13 Plus

พร้อมกันนี้ เดลล์ยังนำเสนอพีซีเพื่อการใช้งานในธุรกิจที่ปลอดภัยที่สุดในอุตสาหกรรม ด้วยการใช้ทั้งซอฟต์แวร์ที่อยู่เหนือจากการคุ้มครองต่างๆ ของระบบปฏิบัติการ (OS) ตลอดจนการให้การปกป้องในรูปของฮาร์ดแวร์ที่อยู่ต่ำกว่าความสามารถของ OS

ในการป้องกันภัยคุกคามทั้งในปัจจุบันและอนาคต สิ่งที่มาใหม่สำหรับ Dell Latitude ทุกรุ่นคือ Self-Healing Image Recovery ที่ให้การกู้คืนระบบปฏิบัติการหลังจากเกิดปัญหาร้ายแรง

Related Posts

Send this to a friend