เด็กรุ่นใหม่เบื่อสอนคนสูงวัยใช้เทคโนโลยี ถือเป็นภาระ และมีผลต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว
Kaspersky บริษัทด้านความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตระดับโลก เปิดเผยผลการวิจัยชิ้นใหม่ว่าเทคโนโลยีเป็นตัวเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตของเรา ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายเท่านั้น งานวิจัยใหม่ยังเปิดเผยว่า 35% ของคนวัยอายุมากกว่า 55 ปี ขึ้นไปยังคงต่อสู้หรือใช้ความพยายามอย่างมากกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากบุตรหลาน ซึ่งนำไปสู่คำถามมากมายจากผู้สูงวัยที่มักจะคอยถามบุตรหหลานอยู่สม่ำเสมอ อาทิ ช่วยแก้อินเทอร์เน็ตให้หน่อย ช่วยสอนการอัพโหลดคลาวด์ให้หน่อย หรือช่วยรักษาความปลอดภัยของแอปธนาคารของฉันให้ด้วย เป็นต้น
แต่ในขณะเดียวกันคนหนุ่มสาววัยกลางคนก็ต้องการมีเวลาเป็นของตัวเอง ต้องคอยยุ่งอยู่กับเรื่องการสร้างครอบครัว ซื้อบ้าน มีลูก รวมถึงภาระหน้าที่การงานที่ทำอยู่ การที่จะให้มาตอบคำถามผู้สูงวัยเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องยากขึ้น
ในขณะที่วัยรุ่นมากกว่า 55% คิดว่า ถือเป็นหน้าที่ของตนในการช่วยให้คำแนะนำปรึกษาในการใช้เทคโนโลยีต่อญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว แต่ก็มีบางกลุ่ม (คิดเป็น 25%) ตอบตามตรงเลยว่าพยายามหลีกเลี่ยง ไม่อยากจะช่วยแนะนำการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ต่อคนในครอบครัว
สำหรับตัวผู้สูงอายุเองนั้น 52% ของกลุ่มคนที่อายุมากกว่า 55 ปี ขึ้นไป ยอมรับว่าไม่มีความรู้เรื่องการใช้งานเทคโนโลยีเลย โดยที่ 41% ตอบว่าจะคอยถามลูกหลานให้แนะนำการใช้งานเทคโนโลยีอยู่เสมอ ที่น่าอัศจรรย์ก็คือ มีกลุ่มตัวอย่างถึง 18% ที่ไม่มีเด็กคอยให้การช่วยเหลือเลย และอยากให้พวกเขามาช่วยเหลือตรงจุดนี้ และมีอีก 15% ที่ต้องจ่ายเงินเพื่อให้เด็ก ๆ ช่วยสอนการใช้งานอีกด้วย
“ไม่ใช่ทุกคนจะโตมากับเทคโนโลยี และคนรุ่นเก่าอาจจะไม่สะดวกและคุ้นเคยในการใช้เทคโนโลยีมากเท่ากับเด็กยุคใหม่ แต่พวกเราก็หวังให้ทุกคนสามารถใช้เทคโนโลยีอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้งานในชีวิตประจำวันของพวกเขาได้ และเรามุ่งมั่นที่จะเสริมพลังให้ทุกคนด้วยข้อมูล ดังนั้นความรู้ที่ถูกต้องจะทำให้ผู้ใช้ในทุกวัยสามารถใช้เทคโนโลยีได้ และมั่นใจในการทำกิจกรรมออนไลน์ และเห็นอนาคตที่ดีจากการใช้เทคโนโลยีนั่นเอง” มร.อเล็กซานเดอร์ มัวซีฟ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจ Kaspersky กล่าว
การพึ่งพาเด็กรุ่นใหม่ในการให้คำแนะนำการใช้เทคโนโลยีนั้นมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว แม้แต่ธรรมเนียมการให้ของขวัญก็เปลี่ยนไป 30% หลีกเลี่ยงการซื้อของขวัญที่เป็นสินค้าเทคโนโลยีให้กับผู้สูงวัย เพราะพวกเขารู้ว่าจะต้องเป็นคนที่จัดการตั้งค่าและแนะนำการใช้งานให้
“เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในรถ ในที่ทำงานและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เป็นการท้าทายคนทุกวัยในการเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านั้น กลุ่มคนสูงวัยจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน และมักจะคิดว่ากลัวโดนหลอก ซึ่งทำให้คนยุคใหม่จะต้องช่วยแนะนำการใช้งานและสอนเรื่องความปลอดภัย การติดอาวุธทางปัญญาทำให้เราไม่กลัวและรับต่อสถานการณ์วิกฤติต่างๆ ได้” แคธลีน แซกส์ทอน นักจิตวิทยา กล่าวเสริม
ระเบียบวิธีวิจัย
ใช้วิธีการสอบถามออนไลน์ จากผู้บริโภค 11,000 คน จาก 13 ประเทศ ตามโควต้าของแต่ละประเทศแบ่งตามเพศ อายุ และภูมิภาค
