SPORT

ภาค ปชช. ร้องศาลปกครอง “กกท.-กสทช.” เอื้อประโยชน์นายทุน

นางสาวกุลธิดา เกิดแก่นแก้ว ทนายความผู้ฟ้องคดี ผู้ได้รับมอบอำนาจให้เป็นตัวแทนนาย นพดล วงศ์วิหค ตัวแทนประชาชน เข้ายื่นฟ้องผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย , การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. , คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ต่อศาลปกครองกลาง

โดยขอให้ศาลพิจารณาพิพากษา หรือมีมาตรการคุ้มครอง และมีคำขอบรรเทาทุกข์ชั่วคราวโดยเร่งด่วน เนื่องจาก กกท.ในฐานะผู้ซื้อและได้รับลิขสิทธิ์การเผยแพร่เสียงเผยแพร่ภาพการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 จากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ FIFA ผ่านบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มูลค่า 1,300 ล้านบาท โดยเงินจำนวนครึ่งหนึ่ง คือ 600 ล้านบาท มาจากกองทุนวิจัยและพัฒนาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ส่วนที่เหลือ ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนต่างๆ

ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ บริษัทค่ายมือถือซึ่งสนับสนุนเงินจำนวน 300 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนเสนอ ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ 2543 ซึ่งเป็นการจัดสรรเงินจากกองทุน ให้ไปซื้อลิขสิทธิ์เพื่อให้ประชาชนสามารถรับชมรายการดังกล่าวได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนด้อยโอกาสให้เข้าถึง และรับรู้ใช้ประโยชน์จากรายการดังกล่าวได้อย่างเสมอภาค กับบุคคลทั่วไปโดยไม่เลือกปฏิบัติ และยังเป็นภารกิจของ กสทช. ที่ต้องกำกับดูแลให้การถ่ายทอดสดเป็นไปโดยถูกต้องตามกรอบของกฎหมาย

แต่ผลปรากฏว่ กกท.ทำสัญญาให้สิทธิในการใช้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเพียงบริษัทเดียวคือบริษัทที่เป็นค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ถ่ายทอดสดผ่านระบบ iptv ระบบอินเตอร์เน็ตและระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงระบบอื่นๆ ของค่ายมือถือดังกล่าว แต่กลับปิดกั้นช่องทางการเผยแพร่กล่องรับสัญญาณของค่ายมือถืออื่นและระบบอื่นๆ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ขัดต่อเจตนารมณ์ของประกาศ Must Have, Must Carry ที่ต้องการให้ประชาชนสามารถรับชมได้อย่างทั่วถึงและทุกช่องทาง

การระงับดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย ทั้ง 2 หน่วยงานเข้าข่ายละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ในการจัดสรรให้ประชาชนได้รับชมอย่างทั่วถึงและไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งจากข้อมูล เห็นได้ชัดว่ามีประชาชนจำนวนเกือบ 1 ล้านคน ที่มีกล่องรับสัญญาณของระบบสัญญาณอินเตอร์เน็ตยี่ห้ออื่นๆ จึงไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้

ภาคประชาชนจึงตัดสินใจเข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเพื่อลดภาระให้กับประชาชน ทั้งนี้ หากศาลจะมีความเห็นรับฟ้องและให้ไต่สวนเร่งด่วนในบ่ายวันนี้ หรือในวันต่อๆไป ทีมกฎหมายก็พร้อมจะเข้าชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยพยานหลักฐานสำคัญ คือ ข้อกฎหมายตามที่ระบุไปข้างต้น และข้อกำหนดของกองทุนวิจัยและพัฒนาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

Related Posts

Send this to a friend