SOCIAL RESPONSIBILITY

มูลนิธิศุภนิมิตฯ ชู ‘หลักสูตรครอบครัวสุขสันต์’ เสริมเกราะป้องกันภัยในบ้าน กระชับสัมพันธ์พ่อแม่ลูก

มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เน้นย้ำบทบาทสำคัญในการพัฒนาเด็ก ครอบครัว และชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่มีภารกิจช่วยเหลือเด็กและครอบครัวมากว่า 50 ปี ล่าสุด ทางมูลนิธิฯ ได้จัดโครงการอบรมหลักสูตรครอบครัวสุขสันต์ขึ้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเดือนแห่งการส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยมีกว่า 30 ครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกผ่านการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเรียนรู้การแสดงออกทางความรักต่อกัน ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ผ่านหลักสูตรผู้เอื้อกระบวนการ ซึ่งมาทำหน้าที่เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้และเทคนิคกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ข้อมูลจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พบว่าสถิติการหย่าร้างของคนไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างปี 2564-2567 ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มจาก 110,942 คู่ เป็น 147,621 คู่ สาเหตุหลักมาจากปัญหาความรุนแรงในครอบครัว การนอกใจ และการไม่รับผิดชอบดูแลครอบครัว

นางรสลิน โกแวร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัวว่า พ่อแม่และผู้ปกครองคือหัวใจสำคัญของการดูแลเด็กให้เติบโตเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพ ทางมูลนิธิจึงมุ่งเน้นส่งเสริมศักยภาพของพวกเขา ไม่เพียงเพื่อประโยชน์ของเด็กๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย อบอุ่น และสนับสนุนพัฒนาการของเด็กในทุกช่วงวัย กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจในการช่วยเหลือครอบครัวให้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งขึ้น นางรสลินกล่าวว่า มากไปกว่าการอบรมคือการสร้างสายสัมพันธ์ที่ยั่งยืน หลักสูตรครอบครัวสุขสันต์ไม่ได้เป็นเพียงการอบรมเชิงทฤษฎี แต่เป็นเวทีที่ช่วยให้พ่อแม่และลูกๆ เข้าใจกันมากขึ้น

นางรสลินกล่าวต่อไปว่า ในโอกาสที่เดือนเมษายนเป็นเดือนแห่งการส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว มูลนิธิศุภนิมิตฯ ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสร้างเกราะป้องกันภัยภายในบ้าน พร้อมกับการจัดอบรมโครงการหลักสูตรครอบครัวสุขสันต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานด้านพัฒนาเด็ก และเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวได้เรียนรู้วิธีแสดงออกถึงความรัก สร้างความผูกพันผ่านกิจกรรมที่มีประโยชน์ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในครอบครัวไม่ใช่เพียงการอยู่ร่วมกัน แต่คือความรัก ความเข้าใจ และการสื่อสารที่ดี ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องรอโอกาสพิเศษใดๆ นี่คือสิ่งที่มูลนิธิฯ อยากสื่อสารออกไปในวงกว้างและปรารถนาให้เกิดขึ้นในทุกครอบครัว เพื่อร่วมกันลดสถิติการหย่าร้างและความรุนแรงในครอบครัว อันส่งผลกระทบถึงตัวเด็กโดยตรง จากผลสัมฤทธิ์ของโครงการอบรมนี้ในพื้นที่ดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเองและยั่งยืน จังหวัดเชียงใหม่ ทีมงานจึงมีแผนขยายพื้นที่ดำเนินงานไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นตามพันธกิจของมูลนิธิฯ ในการพัฒนาและสาธารณกุศล ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและครอบครัว โดยคาดหวังว่าความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการอบรมจะช่วยให้ครอบครัวสามารถสานสัมพันธ์กันได้อย่างลึกซึ้งและยั่งยืน

กิจกรรมดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากครอบครัวผู้เข้าร่วม โดยเฉพาะการเปิดใจให้เด็กๆ และพ่อแม่ได้ใช้เวลาและพูดความในใจต่อกัน นางสาวพุทธิดา หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ กล่าวถึงความประทับใจว่า จากกิจกรรมครอบครัวสุขสันต์ ตนเองรู้สึกมีความสุขมากเพราะได้เข้าร่วมอบรมกับคุณแม่ ได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากขึ้น หัวข้อที่ชอบที่สุดคือเรื่องภาษารัก เพราะครอบครัวไม่ค่อยแสดงความรักผ่านคำพูด ส่วนใหญ่จะแสดงออกด้วยการกอดหรือสัมผัสมากกว่า คิดว่าแม่เองก็คงอยากได้ยินคำว่ารักจากปากของตนเองเช่นกัน หลังจากนี้จะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะคำว่ารักไม่จำเป็นต้องพูดเฉพาะในโอกาสพิเศษ แต่สามารถแสดงออกได้ทุกวัน ด้านนางสาวพิชามญชุ์ ผู้เข้าร่วมอีกคนหนึ่งกล่าวว่า ขอบคุณและดีใจมากที่ได้มาอบรมในครั้งนี้ ได้เรียนรู้หลายอย่างที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง โดยคุณแม่ของเธอเสริมว่ารู้สึกดีมากและจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้กับครอบครัวอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ มูลนิธิศุภนิมิตฯ ระบุว่าความยากจนยังเป็นปัญหาที่หยั่งรากลึกในสังคมไทย และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเด็กยากไร้และครอบครัว เด็กเหล่านี้มักถูกกีดกันจากโอกาสในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต และขาดโอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ มูลนิธิฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญและเชื่อมั่นว่าทุกการให้คือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กและครอบครัวให้ดีขึ้น เนื่องจากหนึ่งในต้นตอของปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นก็เป็นผลมาจากความยากจน ความเหลื่อมล้ำในสังคม รวมถึงความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งส่งผลถึงตัวเด็กและเยาวชน ทำให้ขาดโอกาสในด้านต่างๆ และนี่คือเหตุผลที่ทุกคนต้องร่วมกันสร้างพลังแห่งโอกาสและความเปลี่ยนแปลงทางสังคม เพราะทุกการให้คือเหตุผลที่ยิ่งใหญ่

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat