‘พินทองทา’ มอบเงินรายได้จากหนังสือ ให้ 4 มูลนิธิเพื่อสังคม

หวังสร้างประโยชน์ให้สังคม สร้างโอกาสให้เด็ก ด้านมูลนิธิยกแนวความคิด ‘ทักษิณ’ มีอิทธิพลต่อสังคมไทย

วันนี้ (19 ม.ค. 66) ที่ Voice Space ถนนวิภาวดีรังสิต นางพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวคนรองของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนคณะผู้จัดทำหนังสือ Thaksin Shinawatra : Theory and Thought นำเงินรายได้จากการจำหน่ายหนังสือ จำนวนเงินทั้งสิ้น 1,068,000 บาท มอบให้แก่ 4 มูลนิธิ ที่ทำงานเพื่อขับเคลื่อนสังคม ประกอบด้วย มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน และมูลนิธิดวงประทีป เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการสร้างโอกาสให้กับคนไทยและเป็นประโยชน์ในการทำงานขับเคลื่อนเพื่อสังคมในมิติต่างๆ โดยแบ่งยอดการบริจาคเป็นเงินจำนวน 267,000 บาทต่อมูลนิธิ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินภารกิจด้านต่างๆ ตามที่แต่ละมูลนิธิมีความถนัดต่อไป

นางพินทองทา กล่าวว่า หนังสือ Thaksin Shinawatra: Theory and Thought เป็นหนังสือเล่มแรกที่ลูกสามคนตั้งใจทำกับทีมงาน หนังสือเล่มนี้เกิดจากคิดว่ามี “Theory & Thoughts” ของ ดร.ทักษิณ ตั้งแต่ลูกอยู่ในวัยเด็ก และอยากให้ลูก ๆ หลาน ๆ รับรู้ถึงความคิดของ ดร.ทักษิณ ต่อมาก็คิดว่าน่าจะเป็นพลังใจให้กับคนในสังคมด้วย จึงเป็นที่มาของการจัดทำหนังสือเล่มนี้

นางพินทองทา กล่าวต่อไปว่า แม้แต่คุณหญิงพจมาน ก็ไม่เคยให้สัมภาษณ์ที่ไหนเลย พี่ป๊อก คนขับรถคนแรก รวมไปถึงคนสำคัญอีกหลายด้าน ก็อยู่ในหนังสือเล่มนี้ ถือเป็นมุมมองที่ครบรอบด้านของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร

“คุณพ่อเชื่อมาตลอดว่าคนไทยมีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก เพียงแต่บางคนยังขาดโอกาส จึงสร้างมูลนิธิไทยคม สร้างอนาคตให้กับเด็กไทย เอมมองว่ามูลนิธิของเราก็มีส่วนสร้างประโยชน์กับสังคม แต่อีกหลายมูลนิธิก็ตั้งใจสร้างประโยชน์ให้สังคมเช่นกัน จึงอยากสร้างโอกาสให้กับเด็กไทย” นางพินทองทา กล่าว

นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ประธานกรรมการมูลนิธิกระจกเงา กล่าวตอบรับว่า ดร.ทักษิณ เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อแรงบันดาลใจและความคิดของคนในสังคมไทย ถึงแม้ว่าเวลาจะยาวนานเพียงใดก็แล้วแต่ แต่แรงบันดาลใจยังส่งผลต่อสังคมไทย

นายสมบัติ กล่าวว่า คราวที่ ดร.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วจัดรายการวิทยุผมก็นั่งฟังอยู่ ในช่วงนั้นสังคมไทยติดหล่มอยู่ในปัญหาสังคม ปัญหายาเสพติด ซึ่งภาคประชาสังคมก็เห็นว่าปัญหาดำรงอยู่ ภาคประชาสังคมขนาดเล็กอย่างเราก็พยายามแก้ไข แต่เมื่อ ดร.ทักษิณ เข้ามาแก้ไข เราเห็นเลยว่าเมื่อใครสักคนมีวิสัยทัศน์ มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จได้ มันทำให้ปัญหารากฐานของสังคมนั้นคลี่คลาย และสังคมมีความหวัง ทำให้เราหวังว่าสังคมจะหลุดจากปัญหาที่ติดอยู่ยาวนานได้

ทฤษฎีของ ดร.ทักษิณ ที่นายสมบัติชอบนั้น นายสมบัติ เปิดเผยว่า เคยฟังในวิทยุว่า “จะเปลี่ยนภาระ เป็นพลัง” คือการมองว่า กลุ่มปัญหาเหล่านั้น อย่างคนไร้บ้านและคนชรา กลับขึ้นมาเป็นคนทำงาน คือกลายเป็นพลังในการแก้ปัญหาได้

นางสาวดุจเพชร รักษ์ทอง ผู้แทนมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นและขอขอบคุณทีมงานผู้จัดทำหนังสือและ VOICE ในวันนี้ จะนำเงินที่ได้มาให้คนรุ่นใหม่ทำงานผ่านโครงการในพื้นที่ ภายใต้มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม

ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิดวงประทีป กล่าวตอบรับว่า รู้สึกประทับใจที่มีผู้ที่เปลี่ยนแปลงประเทศได้เพียงนี้ มูลนิธิดวงประทีปเองอยู่ในพื้นที่ของคนยากคนจน เป็นพื้นที่ที่ความเหลื่อมล้ำของสังคมปรากฏได้ชัดเจน อย่างในช่วงปี 2538-2539 มียาเสพติดเยอะมาก แต่เมื่อ ดร.ทักษิณ เข้ามาบริหาร ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศในสลัมให้มีความสงบสุข มีรอยยิ้ม มีความหวัง มีความฝัน ที่ลูกหลานจะได้กลับมาสู่อ้อมอก

นางสาววิภาพร ฟักอินทร์ ผู้แทนมูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน กล่าวตอบรับว่า ขอบคุณที่มอบเงินให้มูลนิธินำเงินไปใช้ในกิจการตามวัตถุประสงค์

ด้าน นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย บรรณาธิการประชาไท ในฐานะผู้แทนมูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน กล่าวเสริมว่า วัตถุประสงค์ของมูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน คือการเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนในการเท่าทันสื่อ เข้าถึงข้อมูล การสื่อสารสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

“ความคิดและการปฏิบัติของคุณทักษิณ เลี่ยงไม่ได้ที่จะอยู่ในเว็บไซต์ประชาไทของเรา ทั้งความคิดและคุณค่าที่เรายึดถือ” บรรณาธิการประชาไท กล่าว

ทั้งนี้ หนังสือ Thaksin Shinawatra : Theory and Thought คือ หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราว ความคิด และการทำงานตลอดชีวิตที่ผ่านมาของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านการรวบรวมบทสัมภาษณ์จากผู้คนรอบตัว ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และผู้ที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายซึ่งเคยเกิดขึ้นใน สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย