SOCIAL RESPONSIBILITY

ซีพีเอฟ ส่งเสริมการผลิต-การบริโภคอย่างยั่งยืน ใช้น้ำอย่างคุ้มค่า เนื่องในวันอาหารโลก

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก ควบคู่กับการพัฒนากระบวนการผลิตอย่างรับผิดชอบ ใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อผลิตอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รสชาติอร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการ ตอบสนองทุกความต้องการ ของผู้บริโภคทั่วโลก สอดรับแนวคิดวันอาหารโลกปี 2023 (World Food Day 2023) เนื่องจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization : FAO) กำหนดให้วันที่ 16 ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันอาหารโลก” (World Food)

โดยแนวคิดในปีนี้คือการรณรงค์การผลิต และการบริโภคอาหาร คือ “Water is life, Water is food, Leave No One Behind” หรือ “น้ำคือชีวิต น้ำคืออาหาร โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เพื่อตอกย้ำคุณค่าของน้ำ ทั้งน้ำดื่มและน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญ ในห่วงโซ่การดำเนินชีวิตของมนุษย์ จำเป็นต้องสร้างความตระหนักรู้ ให้กับทุกภาคส่วนให้ใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด และเพียงพอสำหรับทุกชีวิตบนโลกใบนี้

นางนลินี โรบินสัน ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารซีพีเอฟ (CPF RD Center) เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ในฐานะผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก มีนโยบายหลักในการสร้างอาหารปลอดภัย และความมั่นคงทางอาหาร โดยให้ความสำคัญกับการส่งมอบอาหารปลอดภัย คุณภาพดี ตรงตามความต้องการอาหาร ของผู้บริโภคในแต่ละช่วงวัย ตลอดจนได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้พัฒนากระบวนผลิต ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งพลังงาน น้ำ และวัตถุดิบต่างๆ ลดการสูญเสียในขั้นตอนการผลิต (food loss) ร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายของบริษัทฯ ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050

ซีพีเอฟ ในฐานะผู้ผลิตอาหารตระหนักดี ถึงความสำคัญของการใช้น้ำ ตลอดกระบวนการผลิตอย่างรับผิดชอบ ทั้งการใช้น้ำภายในองค์กร และลดการพึ่งพาแหล่งน้ำภายนอก อีกทั้งยังมีนโยบายบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยการนำหลัก 3 Rs ได้แก่ 1.ลดการใช้น้ำ (Reduce) 2.นำน้ำกลับมาใช้ใหม่ โดยผ่านการบำบัด (Recycle) และ 3.นำน้ำกลับมาใช้ซ้ำโดยไม่ผ่านการบำบัด (Reuse) ส่งเสริมบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน

นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตามนโยบายการเพิ่มสัดส่วน ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น ส่งเสริมการสร้างความยั่งยืน ให้กับสุขภาพของประชากรทั่วโลก ร่วมสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) ในการขจัดความหิวโหย (Zero Hunger) การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-Being) และการผลิตและการบริโภคอย่างรับผิดชอบ (Responsible Consumption and Production) ตอบโจทย์แนวโน้มประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น พร้อมคำนึงถึงสมดุลระบบนิเวศ และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง ของสภาพภูมิอากาศ ที่เกิดจากการผลิตอาหาร (Climate Change)

“ซีพีเอฟ ผลิตอาหารที่มีความหลากหลาย ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค ครอบคลุมทุกกลุ่มคน ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในประเทศและทั่วโลก ตอบโจทย์ไลฟ์สเตจ (Lifestage) ให้เหมาะสมกับผู้บริโภคในทุกช่วงวัย ตั้งแต่อาหารวัยเด็กไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย รวมถึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) ในทุกโอกาสของการกิน ตั้งแต่ อาหารเช้า อาหารระหว่างวัน อาหารกินเล่น อาหารกินอิ่มท้อง หรือ ตอบโจทย์เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ ลดหวานมันเค็ม หรืออาหารโปรตีนทางเลือกอย่าง Meat Zero ช่วยเรื่องสุขภาพให้ดีขึ้น” นางนลินี กล่าว

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหาร CPF RD CENTER มีทีมนักวิจัยและเชฟที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญ ในการดำเนินการศึกษาวิจัยพัฒนาอาหารเชิงลึก เพื่อคิดค้นและสร้างสรรค์อาหาร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีเพิ่มขึ้น และมีรสชาติอร่อยตรงใจผู้บริโภคที่สุด โดยมีการควบคุมคุณภาพ และการผลิตทุกขั้นตอน สร้างหลักประกันอาหารปลอดภัยให้กับผู้บริโภค และยังร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ทั้งในประเทศไทยและระดับนานาชาติ เพื่อพัฒนาและผลิตอาหารให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคที่เหมาะสม เช่น อาหารสำหรับผู้สูงอายุ อาหารสำหรับผู้ป่วยทางการแพทย์ สนับสนุนการเข้าถึงอาหารของทุกคน ในทุกรูปแบบที่แตกต่างกัน ตามแนวทางการผลิต-การบริโภคอย่างยั่งยืน สร้างความมั่นคงทางอาหารของโลกในอนาคต

Related Posts

Send this to a friend