ทีม SEhRT ประเมินความเสี่ยง ก๊าซแอมโมเนียรั่วโรงงานน้ำแข็ง จ.ปัตตานี
วันนี้ (27 เม.ย. 67) นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เกิดก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลที่โรงงานน้ำแข็งบ้านติง ถ.สฤษดิ์ ต.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เบื้องต้นพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงมากนัก มีเพียงพนักงานโรงงานและชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงงาน รู้สึกถึงกลิ่นก๊าซแอมโมเนีย แต่ไม่พบว่ามีอาการแสบตา แสบจมูก หรืออาการอื่นที่รุนแรง เนื่องจากแอมโมเนียรั่วไหลออกมาน้อย และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เร็ว
สำหรับโรงงานดังกล่าวได้หยุดผลิตน้ำแข็งเป็นการชั่วคราวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยวิศวกร และตรวจสอบระบบการผลิตน้ำแข็งให้เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งนี้ หน่วยงานในพื้นที่ได้สื่อสารแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนทราบ พร้อมแนะนำการดูแลปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงสุขภาพ
นายแพทย์อรรถพล กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย ได้มอบหมายทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด โรงพยาบาล และหน่วยงานท้องถิ่น สำรวจ เฝ้าระวัง ประเมินความเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและผลกระทบทางสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบ
จากข้อเท็จจริงในเบื้องต้นพบว่า โรงงานน้ำแข็งดังกล่าวได้รับใบอนุญาตการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนการตรวจสอบพบว่าก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลบริเวณของเส้นท่อ และบริเวณจุดที่มีการรั่ว มีภาชนะรองรับไว้ จึงไม่มีการปนเปื้อนของสารแอมโมเนียมากับน้ำ หรือไหลลงแหล่งน้ำสาธารณะ ระบบประปาชุมชน หรือประปาหมู่บ้าน
“ช่วงนี้ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้น ความต้องการน้ำแข็งของประชาชนมากขึ้น ทำให้โรงงานผลิตน้ำแข็งเร่งผลิตน้ำแข็งให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค จึงอาจทำให้เกิดปัญหาการเร่งผลิต ประกอบกับอุปกรณ์ เครื่องจักร มีความเสื่อมสภาพและอาจผิดปกติได้ สถานประกอบกิจการจึงควรตรวจสอบระบบการผลิตต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดภาวะฉุกเฉินจากกรณีสารเคมีรั่วไหลดังกล่าว” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว












