‘ชัยชนะ’ ลุยสอบ รพ.เอกชน ย่านรังสิต ตรวจสุขภาพแรงงานต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
‘ชัยชนะ’ ลุยสอบ รพ.เอกชน ย่านรังสิต ตรวจสุขภาพแรงงานต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต พบ 10 เดือน ออกเอกสารมากกว่า 12,000 ราย สั่งเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย เร่งติดตามแรงงานกลับมาตรวจใหม่
วันนี้ (26 ส.ค. 68) นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบโรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่ ย่านรังสิต จ.ปทุมธานี หลังข้อมูลเปิดให้บริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายชัยชนะ กล่าวว่า โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาลเอกชนที่จะตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวกับกรมจัดหางาน อยู่ระหว่างการขออนุญาต แต่กลับเปิดให้บริการก่อน ถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ตามมาตรา 35(4) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงมีคำสั่งให้โรงพยาบาลฯ ระงับการให้บริการตรวจสุขภาพคนต่างด้าวจนกว่าจะได้รับอนุญาต และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานีเปรียบเทียบปรับ
ปัจจุบันมีสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวกับกรมการจัดหางาน 75 แห่ง แต่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงสาธารณสุขเพียง 41 แห่ง ซึ่งในวันนี้ เพียงสถานพยาบาลแห่งเดียว พบข้อมูลการออกเอกสารตรวจสุขภาพให้แรงงานต่างด้าวตั้งแต่ พฤศจิกายน 2567 – สิงหาคม 2568 มากกว่า 12,000 ราย คาดว่าสถานพยาบาลที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงสาธารณสุขจะออกเอกสารตรวจสุขภาพที่ไม่ถูกต้องให้แรงงานต่างด้าวมากกว่า 300,000 ราย
ทพ.อาคม กล่าวว่า แม้สถานพยาบาลจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากจะให้บริการตรวจสุขภาพคนต่างด้าว ต้องยื่นแบบคำขอบริการเพิ่มเติมบริการตรวจสุขภาพคนต่างด้าว (แบบ ส.พ. 16) กับผู้อนุญาต คือ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ก่อน นอกจากนี้ ก่อนจะเปิดให้บริการสถานพยาบาลจะต้องเตรียมความพร้อมมาตรฐานให้ถูกต้องตามที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ กำหนด ประกอบด้วย
1.มีห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
2.มีห้องเอกซเรย์ และเครื่องกำเนิดรังสีทางการแพทย์ที่ผ่านมาตรฐานและแจ้งการครอบครองกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
3.มีแพทย์ผู้รับผิดชอบในการให้บริการตรวจสุขภาพคนต่างด้าว และมีผู้ประกอบวิชาชีพ หรือผู้ประกอบโรคศิลปะอื่นเป็นผู้ร่วมให้บริการตามมาตรฐานวิชาชีพ
4.มีเวชระเบียน และการรายงานผลการตรวจสุขภาพ โดยต้องจัดให้มีรายชื่อคนต่างด้าวที่มาตรวจสุขภาพ ผลการตรวจสุขภาพจำแนกตามโรคต้องห้าม
5.มีระบบพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวตนคนต่างด้าวที่เข้ามารับบริการตรวจสุขภาพของสภากาชาดไทย หรือระบบยืนยันตัวตนอื่นที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และหากผลการตรวจสุขภาพคนต่างด้าวปรากฏเป็นโรคต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง หรือโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ สถานพยาบาลต้องรายงานผลการตรวจไปยังหน่วยงานของรัฐตามที่มีกฎหมายกำหนด












